เคาะ SCC

#ทันหุ้น - ผู้บริหารมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจซีเมนต์และก่อสร้างมากขึ้น รับภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตในเวียดนามและอินโดนีเซีย ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง โดยล่าสุด ได้ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจรับจ้างผลิต Clinker Grinding ในเวียดนามใต้ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าภาคใต้ ด้านธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ ภาพปิโตรเคมียังมีความท้าทายอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Polypropylene (PP) เนื่องจากยังมีกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 ขณะเดียวกันในกลุ่ม Polyethylene (PE) ก็อาจมีความล่าช้าของกำลังการผลิต จากปีที่แล้วมาในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้แทน ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เติบโตตามภาพการท่องเที่ยว และการลงทุน M&P

ทั้งนี้แนวโน้ม 3Q/67F คาดว่าจะชะลอตัวลง QoQตามปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจซีเมนต์-ปิโตรเคมี และไม่ได้รับรู้รายรับปันผลในงวด แต่ดีขึ้น YoY ตามการฟื้นตัวของโครงการภาครัฐ และภาคอสังหาทั้งในไทย และเวียดนาม

ส่วนภาพทั้งปี Bloomberg ประเมินกำไรสุทธิที่ 1.67 หมื่นล้านบาท -32.9%YoY และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 266.63 บาท โดยราคาปรับตัวลงกว่า 31%YTD สะท้อนภาพการเติบโตที่หดตัวลงในปีนี้ ตามการปรับเป้าหมายรายได้ลงเป็นขยายตัว 10%, ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัว อุปทานของกลุ่มปิโตรเคมี ที่ไหลเข้ามากดดัน Spread และการเลื่อน COD โครงการ ลองเชิน ปิโตรเคมิคอลส์ (LSP) อย่างไรก็ดีเรามองว่า SCC ยังเป็นหุ้นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGใหม่ และกองทุนวายุภักษ์ เป็นปัจจัยหนุนราคาในระยะถัดไป

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค แนวโน้มการแกว่งตัวแท่งเทียนหรือการเรียงตัวแท่งเทียนรูปแบบ V-Shape ระยะสั้นปรับตัวเน้นยืน Gap แนวรับ 217 เป็นจุดพิจารณารูปแบบ แนวต้านระหว่างวัน 224 แนวต้านหลักจุดทดสอบ 227 และกรอบแนวต้านจุดสูงเดิม 232-233 ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำขาขึ้น

คำแนะนำ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ/ซื้อเพิ่ม ลุ้นทดสอบแนวต้าน 224/227/233

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 217/212 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา