Yuanta ชวนแซ่บ by อ.อ้วน : หุ้นที่ Underperform อาจเด้งกลับเมื่อชัดเจน

#GPSC #ทันหุ้น-สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน หลังเริ่มใช้มาตรการ Uptick Rule ผมว่าเริ่มเห็นผลบวกเข้ามาบ้าง แม้ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลง แต่ถ้าทำให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นพื้นฐานดี มีเสถียรภาพมากขึ้น ผมว่าคุ้มค่ากับการรอคอยของนักลงทุนในประเทศ ยอด Short Sell เบาบางลงชัดเจน การเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ สอดคล้องกับปัจจัยในแต่ละวันมากขึ้น เช่น ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น แล้วทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นปรับตัวขึ้นตาม ซึ่งต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ ที่เคลื่อนไหวแบบไม่มีทิศทาง

กล่าวคือ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น แต่ราคาหุ้น PTTEP, BCP, TOP, SPRC กลับปรับตัวลง แบบนี้จะมาบอกว่าตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะปกติไม่ได้แน่นอนครับ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ผิดเพี้ยน เช่น โรงไฟฟ้า ที่ไม่ว่า Bond Yield และราคาก๊าซธรรมชาติจะอ่อนตัวลงมาเพียงใด ราคาหุ้นก็เลือกที่จะปรับฐานลงอย่างเดียว ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ยังไงก็ต้องมีช่องว่างให้นักลงทุน Trading ตามปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันกันบ้างครับ

สำหรับแนวโน้ม SET INDEX สัปดาห์นี้ ผมประเมินว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองเป็นหลัก ถ้าวันที่ 10 ก.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเพื่อพิจารณาความคืบหน้ากรณีนายกฯเศรษฐา แล้วมีการกำหนดวันวินิจฉัย ผมคาดว่า SET INDEX จะตอบรับเชิงบวก และหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับฐานลงมาแรงก่อนหน้านี้ มีโอกาสฟื้นตัวกลับระยะสั้น โดยถ้านับตั้งแต่ 23 พ.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยกรณีนายกเศรษฐา แต่งตั้ง รมว. ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ พบว่า SET INDEX ปรับตัวลงมาแล้วราว 5% และลงไปลึกสุดที่ระดับ -7% ซึ่งถือเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับอดีตกรณีที่มีความกังวลทางการเมืองเกิดขึ้น

เพราะฉะนั้น Downside หลังจากนี้ผมเชื่อว่าจำกัดแล้ว แต่ Upside จะเปิดกว้างหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าด้านปัจจัยการเมืองเป็นหลัก ถ้ามีวันวินิจฉัยที่ชัดเจน คาดว่า SET INDEX จะค่อยๆ ฟื้นตัวเพื่อไปลุ้นกับผลคำตัดสินที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่า SET INDEX จะ Buy on fact เพราะเสน่ห์ของการเมืองไทย คือ ปัญหาที่เกิดขึ้น มักมีทางออกเพื่อให้ประเทศได้เดินหน้าได้เสมอ หุ้นที่ปรับฐานลงมาแรงและยังฟื้นตัวช้ากว่า SET INDEX แต่พื้นฐานแข็งแกร่ง น่าจะเห็นแรง Short Covering หนุนให้ราคาหุ้นฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เช่น GPSC ราคาหุ้นปรับตัวลง -20%, BGRIM ราคาหุ้นปรับตัวลง -17%, AOT ราคาหุ้นปรับตัวลง -14%, OR ราคาหุ้นปรับตัวลง -12%, และ TIDLOR ราคาหุ้นปรับตัวลง -11%

ช่วงนี้ ผมอาจจะเน้นหุ้นใหญ่หน่อยนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นหุ้นใหญ่หรือหุ้นเล็ก ต่างปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวในระดับ Valuation ที่ไม่แพงแล้วทั้งนั้น และถ้าพิจารณาจากผลของมาตรการ Uptick ในช่วง COVID-19 ระบาด ก็พบว่า SET INDEX ที่ฟื้นตัวแรงหลังประกาศใช้ Uptick มาจากแรงหนุนของการฟื้นตัวหุ้นขนาดใหญ่มากกว่าหุ้นขนาดเล็ก นอกจากนี้ หุ้นขนาดใหญ่ผมว่าจะได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการปิดสถานะ Short ด้วย