นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายปีนี้ที่ 20% จากการเติบโตของรายได้ที่หลากหลาย โดยปี 2567บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ๆ (New Business Units) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การขนส่งทางรางไปยังประเทศจีน-สปป.ลาว รวมถึงการขนส่งสินค้าทางรางภายในประเทศ
บริษัทยังเตรียมเปิดให้บริการคลังสินค้า Cold Chain Storage คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนพฤษภาคม 2567 นี้ และ Self Storage แห่งใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนเมษายนนี้ โดยมีพื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร บนถนนพระราม 4
นอกจากนี้ยังมี Self Storage สำหรับเก็บไวน์ ทั้ง B2B และ B2C และไม่เกินไตรมาสที่ 2/2567 บริษัทเตรียมประกาศการทำธุรกิจ EV Truck & Rail Transport
นอกจากนี้บริษัทจะมีการเติบโตของรายได้จากโครงการ JV อื่นๆ ที่ได้มีการจัดตั้งในปี 2566เช่น บริษัท LEO Sourcing & Supply Chain บริษัท LaneXang Express และบริษัท Logicam LEO (Cambodia) ที่จะมีการเติบโตด้านรายได้อย่างก้าวกระโดด รวมถึงบริษัทมีโครงการ JV และ M&A อีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างเจรจาในปีนี้
สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจ ระหว่าง LEO และบริษัท Logicam LEO (Cambodia) Co., Ltd. (LogiCam )พัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย - กัมพูชา ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของทั้ง 2 ฝ่ายที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านการให้บริการด้านโลจิสติกส์
ขณะที่ปัจจุบัน LogiCam สามารถให้บริการเดินพิธีการศุลกากรทั้งนำเข้าและส่งออก บริการขนส่งจากประเทศไทยมายังกัมพูชาทางรถบรรทุกข้ามพรมแดน (Cross Border Transport) บริการขนส่งและกระจายสินค้าไปยังเมืองต่างๆ ทั่วประเทศกัมพูชา และบริการด้านคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้าตามความต้องการที่หลากหลาย
ทิศทางการส่งออกของประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม 2567 ขยายตัวขึ้น 10% สูงสุดในรอบ 19 เดือน มีมูลค่า 22,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สอดคล้องกับหลากหลายประเทศในเอเชียตามทิศทางการค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ
โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นตามการขยายตัวของการส่งออก และแรงสนับสนุนจากการอุปโภคบริโภค รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนที่ดีขึ้น ประกอบกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยว หากนโยบายเติมเงินใน Digital Wallet ดำเนินการได้เต็มวงเงิน 500,000 ล้านบาท ประเมินว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้อย่างน้อย 1-1.5%
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม