Yuanta ชวนแซ่บ by อ.อ้วน : BROOK สิ่งที่ซ่อนอยู่มีมากกว่า Bitcoin

#BROOK #ทันหุ้น-สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยปกติมูลค่าการซื้อขายจะเบาบาง ซึ่งรอบนี้ผมคาดว่าจะไม่ต่างกัน แต่ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ข้อดีคือ จะทำให้แรงขายจาก Program Trade ที่นักลงทุนในประเทศกังวลกัน มีโอกาสเบาบางลงตามไปด้วย ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ให้มีโอกาสแกว่ง Sideway up ในระยะสั้นได้ โดยถ้าพิจารณาจากสถิติในอดีต 10 ปีย้อนหลัง SET INDEX มักปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมี 7 ใน 10 ปีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกที่ระดับเฉลี่ย +0.3% ต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วง 3 ปีหลังสุด ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยสูงถึง +2% ต่อสัปดาห์

ซึ่งปีนี้ผมคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นไปตามสถิติดังกล่าว เพราะนอกจากแรงกดดันจาก Program Trade จะลดลงแล้ว ยังมีเม็ดเงินจากกองทุน TESG ในช่วงโค้งสุดท้ายเข้ามาหนุนเพิ่มเติมด้วย ซึ่งผมประเมินเบื้องต้นว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอีกไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท โดยกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของกองทุนในประเทศ ยังเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้ SET ESG Ratings ระดับ AAA ที่ราคาหุ้นยัง Laggard เช่น CPAXT, SCC, CPF, SCGP, THCOM

ส่วนถ้ามองเป็นรายอุตสาหกรรม กลุ่มที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวเด่นต่อเนื่องถึงต้นปีหน้าคือ ธนาคารพาณิชย์, ค้าปลีก, สื่อสาร, และโรงไฟฟ้า เนื่องจากเป็นกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการ 4Q/66 จะออกมาเด่น และได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้ง Easy e-Receipt การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และโครงการ Digital Wallet ที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึง ความคืบหน้าในการพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567ที่จะะช่วยหนุนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาอีกครั้ง

เพราะฉะนั้น ผมยังคาดหวังว่า SET INDEX ในสัปดาห์สุดท้ายของปี จะปรับตัวขึ้นทดสอบเป้าหมายที่ บล.หยวนต้า ประเมินไว้บริเวณ 1,430 จุดได้ไม่ยาก

ส่วนหุ้นที่นำมาแนะนำในสัปดาห์นี้คือ BROOK หรือ บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านข้อมูลหรือคำปรึกษาด้านธุรกิจและการเงิน การลงทุน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาอิสระให้แก่องค์กรชั้นนำของภาครัฐบาลและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผมคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการ 4Q/66 ของ BROOK จะโตเด่นมาก โดยนอกจากรับรู้กำไรจากการ Mark to market สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถ้าอิงราคา Bitcoin ที่ปรับตัวขึ้นราว +60% จากสิ้น 3Q/66 คาดว่า BROOK จะรับรู้กำไรไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท (BROOK มีผลขาดทุนสะสมจากสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ 782 ล้านบาท จึงสามารถบันทึกกำไรกลับมาได้ตามราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปรับตัวขึ้น จนกว่าจะถึงยอดขาดทุนสะสมดังกล่าว) นอกจากนี้ ผมคาดว่าจะมีการบันทึกค่าธรรมเนียม จากการเป็นที่ปรึกษาทำดีลควบรวมของกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อีกราว 100-200 ล้านบาท +/- (มีงานในมือขนาดใหญ่ที่รอรับรู้ค่าธรรมเนียมในการให้คำปรึกษาอีก 1-2 งานในปีหน้า) ซึ่งถ้ากำไร 4Q/66 ทำได้ระดับ 500-600 ล้านบาท จะทำให้กำไรทั้งปี 2566 ดีกว่าปี 2564 ที่ทำได้ 347 ล้านบาท ซึ่งตอนนั้นราคาหุ้น BROOK ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1.22 บาท และปิดปีที่ 1.06 บาท ห่างจากราคาปัจจุบันที่ราว 0.50 บาท อย่างมีนัยสำคัญ ผมจึงมองว่า BROOK มีความน่าสนใจในการเก็งกำไร ทั้งในแง่ตามราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปรับตัวขึ้น และผลประกอบการ 4Q/66 ที่จะโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY

ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2566 เพียง 9.3 เท่า ทางเทคนิคแกว่งตัวขึ้นตามแรงหนุนของเส้นค่าเฉลี่ย มีแนวรับที่กรอบ 0.48-0.50 บาท และแนวต้าน 0.65-0.68 บาท

สุดท้ายนี้ ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนทุกด้าน สุขภาพกาย สุขภาพใจแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไป พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ