#VL #ทันหุ้น – VL ลุ้นผลงานโค้งท้ายพลิกบวก วอลุ่มใช้น้ำมันขยับหนุนขนส่งเพิ่ม มองรายได้ปีนี้ดีกว่าปีก่อน อวด 9 เดือนกวาดเงินเข้าพอร์ตแล้ว 535.97 ล้านบาท เชื่อธุรกิจปี 2567 สดใส แย้มอยู่ระหว่างทำแผน เล็งทยอยเปลี่ยนเรือเก่า ลดค่าเสื่อม ต้นทุนซ่อมบำรุง

นางชุติภา  กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทางทะเลทั้งในประเทศ และระดับภูมิภาคเอเชีย ให้แก่ผู้ประกอบการค้าน้ำมันเป็นหลัก เปิดเผยว่า ลุ้นผลประกอบการไตรมาสสุดท้าย หรือไตรมาส 4/2566 จะกลับมาเป็นบวก โดยทิศทางในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของไตรมาส 4 มีทิศทางค่อนข้างดี แต่ต้องลุ้นอีก 2 เดือนสุดท้ายนี้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่แนวโน้มการใช้น้ำมันมีอัตราที่เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันผู้บริโภคกลับมาใช้รถบนท้องถนนเหมือนเดิมแล้ว

** เดินเรือเต็มกำลัง

ประกอบกับเรือทุกลำของบริษัทเดินเรือเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 13 ลำ โดยใช้กำลังการผลิต (Utilization) อยู่ที่ 80-90%โดยมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 44,400 DWT มีอายุเฉลี่ยกองเรือ 16 ปี โดยลักษณะของเรือที่ให้บริการขนส่งสินค้าจะเป็นเรือเปลือก 2 ชั้น (Double Hull) ทั้งหมด เป็นการป้องกันการรั่วไหลลงสู่ทะเล บริษัทวี.แอล. จะใช้เรือขนส่งที่มีขนาดบรรทุกตั้งแต่ 1,569-5,676 DWT

ขณะที่ผู้ประกอบการต่างกลับมาดำเนินธุรกิจปกติ ดังนั้นภาพการใช้น้ำมันจึงมีปริมาณเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจปี 2567 แต่เบื้องต้นมองภาพธุรกิจปี 2567 จะดีกว่าปี 2566 แต่ต้องจับตาทิศทางเศรษฐกิจในประเทศว่าตะเป็นอย่างไร รวมถึงราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการขนส่ง

อย่างไรก็ตามบริษัทจะพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เพื่อผลักดันอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้กลับมาอยู่ที่ระดับปกติ อีกทั้งจะทยอยเปลี่ยนเรือที่มีมากออกจากกองเรือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย หรือค่าเสื่อมขณะซ่อมบำรุง โดยปัจจุบันยริษัทมีเรือที่มีอายุมากจำนวน 3-4 ลำ และจะทอยยเปลี่ยเรือใหม่เรื่อยๆ จนครบจำนวนเรือ

** มั่นใจรายได้โต

บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะโตกว่าปีก่อน แต่อัตรากำไร (มาร์จิ้น) อาจจะไม่มากเท่ากับปีก่อน เพราะบริษัทถูกผลกระทบต้นทุนน้ำมันบังเกอร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง

ทั้งนี้การบริหารการเดินเรือของ VL เป็นไปตามมาตรฐานการขนส่งสากล ทําให้บริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างการขนส่งทั้งในและต่างประเทศ และเป็นสัญญาระยะสั้นและระยะยาว โดยสัญญาการขนส่งระยะยาว CONTRACT OF AFFREIGHTMENT) หรือ COA สัญญาในการขนส่งโดยส่วนมากจะมีตั้งแต่ 1-3 ปี สัญญาการขนส่งแบบลําซํา หรือ TIME CHARTER การกําหนดราคาค่าขนส่งแบบเหมาจ่าย (Time Charter) โดยไม่สนใจความถี่ในการขนส่งสินค้าซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการทําสัญญาดังกล่าวกับคู่ค้า 1 ราย โดยมีข้อกําหนดให้นําเรือจํานวน 1 ลําให้บริการขนส่งแบบเหมาจ่ายและสัญญาระยะสั้นแบบรายเที่ยว หรือ SPOT CHARTER การขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือต่างๆ เป็นแบบรายเที่ยว

อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้ที่ 535.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.51 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=