นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ ทางทะเลทั้งในประเทศ และระดับภูมิภาคเอเชีย ให้แก่ผู้ประกอบการค้าน้ำมันเป็นหลัก เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจ 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ บริษัทยังเน้นเรื่องขนส่งโลจิสติกส์เป็นหลัก โดยมีปริมาณการขนส่งมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการหาวิธีเพิ่มอัตรากำไร (มาร์จิ้น) เพราะที่ผ่านมามาร์จิ้นของ VL ยังไม่ค่อยดี และอยู่ระหว่างค้นหาว่าแบกรับต้นทุนส่วนใด
ขณะที่การบริโภคน้ำมันยังคงเติบโต จากไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา ภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเลียมในประเทศ มีภาพรวมการใช้น้ำมันอยู่ที่ 157.75 ล้านลิตรต่อวันเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้การใช้น้ำมันเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยการใช้น้ำมันเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 31.91 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 5.6% ส่วนการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 73.53 ล้านลิตร ลดลง 3.0% และอัตราการใช้เรือสูงขึ้นกว่าปี 2565 ตามภาพรวมการใช้น้ำมัน
สำหรับในปี 2567 บริษัทมองภาพธุรกิจขนส่งทางเรืออยู่ในทิศทางที่สดใส เพราะการใช้น้ำมันอยู่ในระดับปกติ แม้เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในกระแส แต่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันยังมีปริมาณจำนวนมาก
ขณะเดียวกันปี 2567 บริษัทยังมีแผนที่จะซื้อเรือเข้ามาทดแทนเรือที่มีอายุมากแล้ว ทำให้มีค่าบำรุงรักษาสูง โดยจะเป็นการทยอยซื้อเข้ามาที่ละ 1 ลำ โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีเรือทั้งหมด 14 ลำขนาด 49,420 DWT และในปี 2568 จะมีเรือ ทั้งหมด 15 ลำขนาด 56,220 DWT บริษัทวางงบซื้อเรือใหม่ไว้ที่ 200 ล้านบาท สำหรับสินค้า หลักของ VL แบงออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์ม
ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 13 ลำ โดยใช้กำลังการผลิตที่ราว (Utilization) อยู่ที่ 80-90%โดยมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 44,400 DWT มีอายุเฉลี่ยกองเรือ 16 ปี โดยลักษณะของเรือที่ให้บริการขนส่งสินค้าจะเป็นเรือเปลือก 2 ชั้น (Double Hull) ทั้งหมด เป็นการป้องกันการรั่วไหลลงสู่ทะเล บริษัทวี.แอล. จะใช้เรือขนส่งที่มีขนาดบรรทุกตั้งแต่ 1,569-5,676 DWT
บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้า หรือที่ประมาณ 15% แต่อัตรากำไร (มาร์จิ้น) อาจจะไม่มากเท่ากับปีก่อน เพราะบริษัทโดนผลกระทบต้นทุนน้ำมันบังเกอร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง ขณะเดียวกันบริษัทจะพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อลดต้นทุน และสร้างมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นให้มากที่สุด ส่วนปีหน้า หรือปี 2567 คาดรายได้จต่อเนื่องในระดับ 15% จากปีนี้ อนึ่ง 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้ 350.56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.05 ล้านบาท
การบริหารการเดินเรือของ VL เป็นไปตามมาตรฐานการขนส่งสากล ทําให้บริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างการขนส่งทั้งในและนอกประเทศ และเป็นสัญญาระยะสั้นและระยะยาว โดยสัญญาการขนส่งระยะยาว CONTRACT OF AFFREIGHTMENT) หรือ COA สัญญาในการขนส่งโดยส่วนมากจะมีตั้งแต่ 1-3 ปี สัญญาการขนส่งแบบลําซํา หรือ TIME CHARTER การกําหนดราคาค่าขนส่งแบบเหมาจ่าย (Time Charter) โดยไม่สนใจความถี่ในการขนส่งสินค้าซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการทําสัญญาดังกล่าวกับคู่ค้า 1 ราย โดยมีข้อกําหนดให้นําเรือจํานวน 1 ลําให้บริการขนส่งแบบเหมาจ่ายและสัญญาระยะสั้นแบบรายเที่ยว หรือ SPOT CHARTER การขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือต่างๆ เป็นแบบรายเที่ยว
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม