> SET > CBG

28 พฤษภาคม 2023 เวลา 12:00 น.

ลุ้น SET ฟื้นสัปดาห์สุดท้ายพ.ค. หุ้นควรเลี่ยง VS หุ้นน่าสนใจ

#ทันหุ้น - ยินดีต้อนรับนักลงทุนสู่สัปดาห์สุดท้ายเดือน พ.ค. 66 กับบรรยากาศความกังวล การเจรจาระหว่าง ประธานาธิบดีโจไบเดน กับนายเควิน แมคคาร์ธี ในการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ จะสำเร็จหรือไม่หากไม่สำเร็จ อาจนำไปสู่การเกิด Government Shutdown เสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าภาวะถดถอย ทั้งนี้นักลงทุนคงมีคำถามว่า หากเกิด SET และ SET50 จะปรับตัวอย่างไร เราจึงทำตารางสถิติ 2 ปีล่าสุดที่สหรัฐฯ เกิด Government

#ทันหุ้น - ตารางแสดงให้เห็นว่า แม้สหรัฐฯ จะเกิด Government Shutdown ไม่ได้กระทบให้ SET และ SET50 ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยปี 56 วันแรกที่เกิด SET สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้ถึง 1.81%, สิ้นสุดเพิ่มขึ้น 6.21% และ SET50 วันแรกปรับเพิ่มขึ้น 2.00%, สิ้นสุดเพิ่มขึ้น 6.59% ส่วนปี 62 แม้วันแรก SET จะปรับตัวลดลง 0.25% แต่เมื่อสิ้นสุด เพิ่มขึ้น 1.77% และ SET50 วันแรกปรับตัวลดลง 0.26% แต่เมื่อสิ้นสุด เพิ่มขึ้น 1.79%


แม้การเจรจาเพดานหนี้สหรัฐฯ เราอาจไม่ต้องกังวลแต่ยังมีสิ่งที่เราต้องติดตามคือ “การจัดตั้งรัฐบาลไทย” โดยมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น จากเงื่อนไข MOU ของพรรคก้าวไกล และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีประเด็นละเอียดอ่อน และได้เสียง ส.ว. แล้ว 19 เสียง สร้างโอกาสในการรวบรวมเสียง ส.ส. และ ส.ว. ถึง 376 เสียง ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจของพรรคร่วมรัฐบาลเน้น กระตุ้นเศรษฐกิจ, ลดค่าครองชีพให้กับประชาชนจากปรับลดค่าไฟฟ้า 0.70 บาท และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME โดยสามารถหักใช้จ่ายเหมาภาษี เพิ่มขึ้นเป็น 90% จากเดิม 60% เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอย่าง CBG, CENTEL, ICHI, M, MINT, OSP, TTAกลุ่มธนาคาร BBL, KBANK, KKP, KTB, TISCO, SCB กลุ่มลิสซิ่งMTC, SAWAD, TIDLOR, THANIแต่ลบต่อหุ้นค้าปลีก BJC, CPALL, CRC หุ้นโรงไฟฟ้า BGRIM, GPSC, GULF นอกจากนี้มี 3 ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ทั้งไทยและสหรัฐฯ เริ่มจาก


1.ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยและตัวเลขการส่งออก เม.ย.66


ในวันที่ 30 พ.ค. 66 โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไทย เม.ย. 66 มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นจาก มี.ค. 66 เพราะการบริโภค, การท่องเที่ยว, การลงทุน ที่ขยายตัว หนุนยอดขายอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นบวกหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอย่างCBG, CENTEL, ICHI, M, MINT, OSP, TTAและกลุ่มค้าปลีก BJC, CPALL, CRCส่วนตัวเลขการส่งออกไทย เม.ย. 66 จะประกาศในวันที่ 31 พ.ค. 66 คาดเห็นการชะลอตัวเพราะภาวะเศรษฐกิจโลก, ปัญหาเงินเฟ้อ,นโยบายการเงินที่เข้มงวดในหลายประเทศ, สงครามรัสเซีย ยูเครนที่ยืดเยื้อ และการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ กระทบภาคการส่งออกเสี่ยงหดตัว โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย, ถุงมือยาง, เหล็ก, เฟอร์นิเจอร์ไม้ เป็นลบหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA, KCE, HANA กลุ่มถุงมือ STGT


2.การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)


ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีการประชุม กนง. ในวันที่ 31 พ.ค. 66 อ้างอิงผลสำรวจคาดการณ์นักเศรษฐศาสตร์ของBloomberg คาด ธปท. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.75% เป็น 2.00%และหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย สร้างโอกาสให้หุ้นกลุ่มธนาคาร สามารถปรับเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น หนุนกำไรเพิ่มสูงขึ้น บวกต่อหุ้นธนาคาร BBL, KBANK, KKP, KTB, TISCO, SCBและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการไทยมากขึ้น จากแนวโน้มต้นทุนเงินกู้ชะลอตัว ส่งเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น หนุนนักลงทุนต่างชาติลงทุน SET และ SET50 มากขึ้น


3.ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยและตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ


ลุ้นต้นทุนต่อหน่วยแรงงานสหรัฐฯ Q1/66 และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร จาก ADP ในวันที่ 1 มิ.ย. 66 และวันที่ 2 มิ.ย. 66 ตามต่อกับการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ จากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ และอัตราว่างงานสหรัฐฯ หากเห็นต้นทุนต่อหน่วยแรงงานและการจ้างงานสหรัฐฯ ลดลง รวมถึงอัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น เพราะปัญหาภาคธนาคารสหรัฐฯ ช่วงกลางเดือน มี.ค. 66 ส่งนักลงทุนกลับมา คาด FED ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่งเงินไหลกลับเข้าตลาดหุ้น จากผลตอบแทนเงินฝากสหรัฐฯ เริ่มเห็นการชะลอตัว ส่งแรงซื้อกลับเข้ามาในSET และSET50


สรุปตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า(29 พ.ค. ถึง 2 มิ.ย. 66)


SET และ SET50


สัปดาห์หน้าคาดเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้น แม้มีความเสี่ยงจากสหรัฐฯ เกิด Government Shutdown แต่จากตารางสถิติย้อนหลัง 2 ปีล่าสุดที่เกิด บ่งชี้ว่า SET และ SET50 ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ประกอบกับการจัดตั้งรัฐบาลไทยมีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น หนุนต่างชาติกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยและFED มีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพราะตัวเลขเศรษฐกิจในส่วนแรงงาน คาดชะลอตัวเป็นอีกปัจจัยที่หนุนเงินไหลเข้า SET และ SET50


กลุ่มหุ้นมีปัจจัยบวก


หากสัปดาห์หน้าเห็นแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เห็นความชัดเจนมากขึ้นและธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายของปี 66 คาดมีแรงซื้อใน


กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม CBG, CENTEL, ICHI, M, MINT, OSP, TTA
กลุ่มธนาคาร BBL, KBANK, KKP, KTB, TISCO, SCB
กลุ่มลิสซิ่ง MTC, SAWAD, TIDLOR, THANI


กลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยลบ


จากนโยบายเศรษฐกิจ ว่าที่รัฐบาลใหม่ ต้องการปรับลดค่าครองชีพ โดยการลดค่าไฟฟ้าลง 0.70 บาท หากถ้าในสัปดาห์หน้ามีการส่งสัญญาณปรับลดค่า FT เสี่ยงนักลงทุนกังวลรายได้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ชะลอตัวในอนาคต คาดเห็นแรงขายระยะสั้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีรายได้ขายไฟในประเทศสูงอย่าง BGRIM, GPSC, GULF


นอกจากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่น่ากังวล หุ้นกลุ่มส่งออกก็เป็นอีกกลุ่มที่ต้องระวังเพราะสัปดาห์มีการประกาศตัวเลขการส่งออกไทย เม.ย. 66 คาดเห็นชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย, ถุงมือยาง, เหล็ก, เฟอร์นิเจอร์ไม้ เสี่ยงเห็นแรงขายในหุ้น


กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA, KCE, HANA
กลุ่มถุงมืออย่าง STGT


ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X