#UBE #ทันหุ้น UBE ไตรมาสแรกมีรายได้ 1,499.2 ล้านบาท ขาดทุน 26.2 ล้านบาท จากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2565 ส่งผลต้นทุนมันสำปะหลังเพิ่มสูงขึ้น เตรียมปรับกลยุทธ์นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง รับเทรนด์การบริโภคเพื่อสุขภาพ
นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2566 เป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ทั้งจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงและอุปทานมันสำปะหลังที่ลดลงมาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานีและพื้นที่ใกล้เคียงในไตรมาสที่4/2565 ถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 43 ปี กระทบแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังโดยตรง
ส่งผลให้อุปทานมันสำปะหลังในฤดูกาลนี้ลดลงกว่า 30% ซึ่งบริษัท ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธุรกิจเอทานอล ปริมาณยอดขายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงยังทรงตัวเนื่องจากได้อนิสงค์จากการเปิดเมืองและฤดูกาลท่องเที่ยว
เร่งยอดขายเอทานอล
อย่างไรก็ดี บริษัท มีแผนเพิ่มปริมาณการขายด้วยการผลักดันการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน อีกทั้งคาดการณ์ได้ผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับเข้าไทยประมาณ 30 ล้านคนในปี 2566 จะเป็นแรงหนุนอุปสงค์การใช้เอทานอลในช่วงที่เหลือของปี ส่วนเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม อุปสงค์ลดลงจากสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งบริษัท ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าผลักดันการเปิดเสรีเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อเพิ่มปริมาณขาย
ด้านธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว บริษัท ได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อนำเสนอฟลาวมันสำปะหลังไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของลูกค้า รวมถึงเพิ่มช่องทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในประเทศ โดยล่าสุดได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายแป้งทอดกรอบ ภายใต้แบรนด์ Tasuko ในร้านสะดวกซื้อต่างๆ แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าเปิดรับความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและฟลาวมันสำปะหลัง เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่มีความหลากหลายในการนำไปใช้ รองรับเป้ากลยุทธ์การก้าวสู่บริษัท Food Tech ในอนาคต
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2566 ของ UBE สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 1,499.2 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 26.2 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบมันสำปะหลังและปริมาณขายที่ลดลงของเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมและแป้งมันสำปะหลัง
ไตรมาส2ยังท้าทาย
นางสาวสุรียส กล่าวต่อไปว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2566ยังคงเป็นช่วงที่ท้าทายจากปริมาณวัตถุดิบมันสำปะหลังและราคามันสำปะหลังทรงตัวในระดับสูง อย่างไรก็ดี คาดการณ์สถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบจะคลี่คลายในไตรมาสที่ 3/2566 เมื่อผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มเก็บเกี่ยว ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จะหนุนอุปสงค์เอทานอล
ทั้งนี้ บริษัท ยังคงสานต่อกลยุทธ์ด้านความร่วมมือเพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนปริมาณการขายสินค้ากลุ่มมูลค่าสูง ทั้งแป้งออร์แกนิคและฟลาวมันสำปะหลัง และยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและแสวงหาโอกาสเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน และมุ่งเน้นกิจกรรมการตลาด ทั้งการเข้าสู่ตลาดใหม่ในต่างประเทศ และการขยายช่องทางการจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ในประเทศให้หลากหลายและต่อเนื่องมากขึ้น
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม