#PTG #ทันหุ้น – PTG ยันรัฐตรึงค่าการตลาดที่ 1.40 บาท ไม่กระทบมาร์จิ้น มั่นใจบริหารจัดการได้ แย้มผลงานไตรมาส 2/2565 โตใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อน รับอานิสงส์ความต้องการฟื้น มั่นใจหนุนยอดขายรายได้ปีนี้โต 6-10% ตามเป้า เล็งผุดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสม CBD ภายในช่วงไตรมาส 3/2565 เดินหน้าอัพรายได้นอนออยล์แตะ 50% ในอนาคต

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า กรณีที่ภาครัฐขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้ตรึงค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไว้ที่ระดับ 1.40 บาทต่อลิตร จากระดับที่ควรจะเป็นอยู่ที่ประมาณ 1.80-2.00 บาทต่อลิตรนั้น มองว่าไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจซึ่งบริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตและบริหารจัดการได้

ทั้งนี้ ในส่วนของแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2565 คาดจะอยู่ในระดับใกล้เคียงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันของภาคส่วนต่างๆ ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ดังนั้นมองว่าจะมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน (วอลุ่ม) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนยอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) มีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้ารายได้จากการขายและบริการของทั้งปีนี้จะเติบโต 6-10% จากปีก่อน และธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

*เล็งออกสินค้าผสม CBD

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจ Non-Oil ยังมีการเติบโตชัดเจน และตั้งเป้าพิ่มสัดส่วนยอดขายขยับขึ้นเป็น 50% ในอนาคต เนื่องจากได้ขยายสาขาใหม่และสาขาเดิมที่กลับมาฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น บวกกับการเปิดประเทศ ทำให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก สะท้อนจากร้านกาแฟในสนามบินที่มียอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก หลังจากปริมาณผู้โดยสารกลับมาใช้บริการกว่า 50-60% แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

ส่วนภายในช่วงไตรมาส 3/2565 บริษัทคาดว่าการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะครบ 36 จุด ซึ่งครอบคลุมเส้นทางท่องเที่ยวเหนือจรดใต้ เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสบายใจตลอดการเดินทาง ประกอบกับมีแผนที่ดำเนินการติดตั้ง Solar Rooftop ภายในสถานีบริการน้ำมันให้ครบ 40-50 สาขา จากปัจจุบันที่ติดตั้งแล้ว 20-30 สาขา รวมถึงบริษัทมีแผนจะออกโปรดักต์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสม CBD หลังปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองและขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ปีนี้

*เคาะพื้นฐาน 15.50 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง PTG ว่า การฟื้นตัว QoQ ต่ำกว่าที่คาดหวังทั้งในด้าน Oil Volume และค่าการตลาดน้ำมัน ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมาก กดดัน Demand ในขณะที่รัฐยังใช้กลไกคุมค่าการตลาดน้ำมันให้ไม่สูงนัก เพื่อพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นเร็วเกินไป กดดันค่าการตลาดให้ลดลง ถึงแม้ Non-Oil Business มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ไม่พอชดเชย

ทั้งนี้คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 น่าจะใกล้เคียงไตรมาส 1/2565 ที่ราว 160 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดหวังเดิม รวมถึงต่ำกว่าไตรมาส 2/2564 ที่ 498 ล้านบาทมาก ในขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2565 น่าจะยังมีแรงกดดันต่อเนื่องทั้งด้าน Volume และค่าการตลาด ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิ 2565 ที่ 1.13 พันล้านบาท (+12% Y-Y) อาจยังมีโอกาส Downside เล็กน้อย แต่ Consensus ที่ทำสูงกว่า มีโอกาส Downside มากกว่า และเป็นแรงกดดันราคาหุ้นระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม คงราคาเป้าหมาย ที่ 15.50 บาท คงคำแนะนำ Trading Buy มองยังคง Wait and See จนกว่าปัจจัยกดดันเรื่องค่าการตลาดจะลดลง โดยให้น้ำหนักไตรมาส 4/2565 ถึงจะมีโอกาสดีขึ้น

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1