#PTG #ทันหุ้น – PTG ส่งซิกไตรมาส 2/2565 ฟอร์มแจ่ม ดีมานด์ทะลัก-ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าการตลาดสู่ภาวะปกติที่ 1.70-1.80 บาทต่อลิตร พร้อมตอกย้ำปีนี้รายได้โต 15% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมควักงบ 4 พันล้านบาท ขยายฐานธุรกิจรอบด้าน

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/2565 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1/2565 เนื่องจากมองทิศทางยอดขายน้ำมันและธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-Oil) ขยายตัวมากขึ้น ราคาขายน้ำมันสูงขึ้น ประกอบกันแนวโน้มค่าการตลาดในส่วนของน้ำมันเข้าสู่สภาวะปกติที่ราว 1.7-1.8 บาทต่อลิตร ตลอดจนเชื่อว่าค่าการตลาดในช่วงที่เหลือปี2565 นั้นจะออกมาอยู่ใกล้เคียงตัวเลขข้างต้นด้วย

สำหรับผลประกอบการปี 2565 บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เป็นไปตามปริมาณการขายน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 6-10% ผลจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลายและธุรกิจมีการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนธุรกิจ Non-Oil เติบโตมากขึ้น

ขณะที่งบลงทุนปีนี้ทาง PTG วางไว้ประมาณ 4 พันล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนขยายสาขาและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันประมาณ 1.5-2.0 พันล้านบาท, ขยายการลงทุนในธุรกิจ Non-Oil อาทิ LPG, ร้านกาแฟ, มินิมาร์ต ฯลฯ อยู่ที่ 1.00-1.50 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้รองรับการขยายธุรกิจใหม่ หวังเสริมศักยภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีกทางหนึ่ง

*เล็งยื่นไฟลิ่งบริษัทย่อย

ด้านความคืบหน้าการนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทได้ชะลอการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ภายใต้บริษัท แอตลาส เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปเป็นปลายปีนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงการตอบคำถามจาก ก.ล.ต.จึงอาจชะลอออกไปเล็กน้อย  ส่วนธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งในช่วงปลายไตรมาส 2/2565 ถึงต้นไตรมาส 3/2565 ตามกำหนดเดิม โดยคาดจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้ในปลายปีนี้

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง PTG ว่า แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท หลังบริษัทประกาศกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2565 พลิกเป็นกำไร 60 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ค่าการตลาดที่อยู่ในระดับต่ำและยอดขายน้ำมันที่ลดลง แต่บริษัทสามารถการบริหารค่าการตลาดที่ดี

*กำไรฉายแววเป้า 18.50 บ.

พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้นมาที่ 1.50 พันล้านบาท เติบโต 45% จากปี 2564 ปรับขึ้นจากประมาณการเดิม 20% จากการปรับสมมติฐานค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งปี 2565 ขึ้นมาในกรอบ 1.70-1.80 บาทต่อลิตร (เดิม 1.60-1.70 บาทต่อลิตร) หลังบริษัทบริหารจัดการค่าการตลาดได้ดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ ในขณะที่ปัจจุบันภาครัฐมีนโยบายผ่อนคลายเพดานราคาดีเซลมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ค่าการตลาดกลับไปอยู่ในระดับสูงได้ (อิงข้อมูลบริษัทค่าการตลาดในปัจจุบันอยู่ที่ 1.70-1.80 บาทต่อลิตร)

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์มองราคาหุ้นกลับมา Outperform SET ได้ราว +10% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คาดตลาดรับรู้ผลประกอบการไตรมาส 2/2565  ที่กลับมาฟื้นตัวได้จากไตรมาส 1/2565 ผลจากค่าการตลาดที่บริหารจัดการได้ดีของบริษัท โดยฝ่ายวิจัยประเมินราคาหุ้นจะ Outperform SET ได้ต่อจากมาตรการคุมราคาน้ำมันที่ผ่อนคลายลงของภาครัฐ และแนวโน้มราคาน้ำมันโลกที่ลดลง จะทำให้ค่าการตลาดทยอยปรับตัวขึ้นและเห็นผลประกอบการที่ฟื้นตัวชัดเจนในช่วงที่เหลือของปีเป็น Catalyst

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon