#kamart #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
.
KAMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้เข้าซื้อหุ้น 4U2 มูลค่า 688 ลบ. คิดเป็น PER ของการเข้าซื้อกิจการที่ 7.7 เท่า ขณะที่มีเงินสดคงเหลือสุทธิจากการเพิ่มทุน ปัจจุบันอยู่ที่ 634 ลบ. คงมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยต่อดีลนี้ เนื่องจาก PER ของการเข้าซื้อกิจการสอดคล้องกับที่บล.กสิกรไทยคาดไว้ ในการอัปเดตล่าสุด ผู้บริหารยังคงแนวทางการดำเนินงานไว้ตามเดิม
คงคำแนะนํา “ถือ" แต่ปรับลดราคาเหมาะสมลง 1% เป็น 8.43 บาท เพื่อสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของการเข้าซื้อกิจการใน 4U2 มูลค่าหุ้นดูสมเหตุสมผลเท่านั้นเมื่อพิจารณาจาก PER ปี 68 ที่ 12.8 เท่า เทียบกับประมาณการ core EPS 3 ปีที่ 12.4%
.
มีอะไรใหม่? เมื่อวันที่ 3 ก.ค. KAMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจาก Marubeni ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2566โดยรายละเอียดได้มีการระบุถึงการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในการเข้าซื้อกิจการบริษัท โฟร์ยูทู โค จำกัด (4U2) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 โดยมูลค่าการลงทุนใน 4U2 อยู่ที่ 687.75 ลบ. ในขณะที่ ณ วันที่ 30มิ.ย.2568 บริษัทมีเงินสดสุทธิคงเหลือจากการเพิ่มทุนที่ 634.51 ลบ. เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ได้รับมาตอนต้นที่ 1.595พันลบ. นอกจากนี้การลงทุนอื่นๆ ที่บริษัทเปิดเผย ได้แก่ การเข้าซื้ออาคาร มูลค่า 185 ลบ. และการลงทุนในตราสารทุน เช่น MGI, MEDEZE และ SNPS จํานวน 87.75 ลบ.
.
ผลกระทบ หากอิงจากการลงทุนซื้อกิจการ 4U2 มูลค่า 688 ลบ. จะสามารถคิดเป็น PER ของการเข้าซื้อกิจการ (acquisition PER) 4U2ที่ 7.7 เท่า (ซื้อกิจการ 30%) โดยในปี 2567 กำไรสุทธิของ 4U2 อยู่ที่ 296 ลบ. (อัตรากำไรสุทธิ 27.2%) และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 460 ลบ. มูลค่าการลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ PER ของการเข้าซื้อกิจการของ 4U2 ของบล.กสิกรไทยที่ 8 เท่า ซึ่งเป็นกรณีที่ 3 ของบล.กสิกรไทย ดังนั้น หากใช้ PER ของการเข้าซื้อกิจการที่ 7.7 เท่า จะเท่ากับเงินสดคงเหลือสุทธิที่ 558 ลบ. และมูลค่าเพิ่มต่อหุ้นที่ 0.35 บาท
.
มุมมองของบล.กสิกรไทย บล.กสิกรไทยคงมุมมองที่เป็นบวกเล็กน้อยต่อการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว เนื่องจาก PER ของการเข้าซื้อกิจการไม่แพงเกินไปและสอดคล้องกับที่บล.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้ สมมติฐานส่วนแบ่งกำไรปี 2568-70 ของบล.กสิกรไทยอยู่ที่ 44 ลบ. 89 ลบ. และ 89 ลบ. โดยอิงจากกำไรปี 2567 ของ 4U2 ที่ 296 ลบ. หาก 4U2 สามารถทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปีนี้ ก็อาจมี upside risk ต่อการคาดการณ์กำไรของบล.กสิกรไทย ในขณะเดียวกัน การอัปเดตล่าสุดของบล.กสิกรไทยกับผู้บริหาร บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 4.0 พันลบ. และกำไรปกติที่ 900 ลบ. โดยระบุว่ารายได้และกำไรไตรมาส 2/2568 น่าจะลดลง QoQ ตามเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น
.
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ “ถือ" KAMART แต่ปรับลดราคาเป้าหมายกลางปี 2569 เป็น 8.43 บาท จากเดิมที่ 8.52 บาทเพื่อสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงจากการซื้อกิจการ 4U2 บล.กสิกรไทยได้รวม PER ของการเข้าซื้อกิจการของ 4U2 ที่ 7.7 เท่า ไว้ในราคาเป้าหมายแล้ว ซึ่งน่าจะทําให้มีเงินสดในมือเพิ่มขึ้น 0.35 บาทต่อหุ้น โดยเมื่อรวมประมาณการกำไรต่อหุ้นกลางปี 2569 ของ KAMART ที่ 8.08 บาท จะทําให้ได้ราคาเป้าหมายที่ 8.43 บาท บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ “ถือ" เนื่องจากมี upside risk เพียงแค่ 6.1% โดย ณ ปัจจุบัน หุ้นซื้อขายด้วย PER ปี 2568-69 ที่ 12.8 เท่า และ 11.6 เท่า เทียบกับประมาณการอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของ core EPS ในช่วง 3 ปีของบล.กสิกรไทยที่ 12.4% และอัตราตอบแทนเงินปันผลปี 2568-69 ที่ 5% และ 5.9%ซึ่งถือว่าการประเมินมูลค่าปัจจุบันเพียงแค่เหมาะสมเท่านั้น
.
Upside risk ได้แก่ 1) ส่วนแบ่งกำไรจาก 4U2 ที่สูงกว่าคาด 2) การเติบโตจากธุรกิจอื่น (inorganic growth) จากดีล M&A ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และ 3) ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องสําอางที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในและต่างประเทศ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม