> SET > ACE

04 กรกฎาคม 2025 เวลา 08:16 น.

ACEมั่นรัฐหนุนชีวมวล ปีนี้ขยายกำลังผลิตอื้อ

#ACE #ทันหุ้น – ACE มั่นใจรัฐสนับสนุนโรงไฟฟ้าชีวมวล ชี้เป็นกลไกสำคัญในการลดปัญหาการเผา ลดฝุ่น PM 2.5 ขณะที่บริษัทมีประสิทธิภาพดำเนินงานสูง เดินหน้าขยายพอร์ต แย้มปีนี้ทยอยจ่ายไฟฟ้าแสงอาทิตย์รวม 20 โรง รวม 126 เมกะวัตต์ โบรกมองกำไรปีนี้โต 20% แตะพันล้านบาท 


นายธีรวุฒิ  ทรงเมตตา  ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัท แอ๊บโซลูทคลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ยืนยันเห็นชอบให้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ของผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ที่ได้รับการชดเชยรูปแบบ Adder  และปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็น Feed-in Tariff  (FiT) ให้สามารถต่ออายุสัญญาตามจำนวนปีที่ถูกปรับลดในอัตรารับซื้อไฟฟ้า 2.28 บาทต่อหน่วยว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทปัจจุบันเป็น FiT ทั้งหมดอยู่แล้ว และอาจจะเป็นบวกหากรัฐบาลต่ออายุโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เป็น FiT อยู่แล้วออกไป 


ทั้งนี้เชื่อว่าภาครัฐยังคงเดินหน้าสนับสนุนโรงไฟฟ้าชีวมวล เนื่องจากจะเป็นประโยชน์กับประเทศ ทั้งในเรื่องการลดฝุ่น เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวล จะรับซื้อ พวกตอข้าว ใบอ้อย ฟางข้าวโพดมาเป็นเชื้อเพลิง เป็นการแก้ปัญหาการเผา ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดฝุ่น PM2.5 ที่ทำร้ายสุขภาพและเศรษฐกิจมากกว่า โดยอาจจะมีการคำนึงในเรื่องต้นทุนการดำเนินงาน ทั้งราคารับซื้อ การขนส่ง และการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรในการดำเนินการโรงไฟฟ้าชีวมวล 


ขณะเดียวกันในส่วนของ ACE เองก็มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ สามารถผลิตเตาเผาโรงไฟฟ้าชีวมวลที่รองรับกับชีวมวลการเกษตรหลายประเภท และรองรับความชื้นที่สูงได้ ทำให้ธุรกิจของบริษัทมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น


@กำลังผลิตเพิ่ม


นายธีรวุฒิ  กล่าวด้วยว่า  ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่บริษัทสามารถได้ชนะการเสนอเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 ไปตลอดทุกไตรมาสจนถึงสิ้นปี บริษัทจะมีกำลังผลิตที่ทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 20 โครงการโรงไฟฟ้าจำแนกเป็นโซลาร์ฟาร์ม 10 โครงการและโซลาร์รูฟท็อป 10 โครงการเข้ามาเพิ่มเติม คิดเป็นกำลังผลิตผลิตเชิงพาณิชย์ หรือ COD ที่จะเพิ่มขึ้นรับรู้รายได้รวมอีก 126.92 เมกะวัตต์ (PPA รวม 68.97 เมกะวัตต์) ส่งผลให้กำลังผลิตเพิ่มจาก ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ที่ 341.71 เมกะวัตต์ (PPA รวม 249.38 เมกะวัตต์) เป็น 468.63 เมกะวัตต์ (PPA รวม 318.35 เมกะวัตต์)


แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 13 แห่ง กำลังผลิต 138.40 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้า Co-Gen 1 แห่งกำลังผลิต 114.35 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะ 2 แห่ง กำลังผลิต 12 เมกะวัตต์  และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสดงอาทิตย์ 37 แห่ง กำลังผลิต 203.88 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในปีนี้

ทั้งนี้บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และรอการพัฒนาอีกจำนวนมากถึง 59 โครงการ ดังนั้นก็จะมีการทยอยเสร็จและรับรู้ต่อเนื่อง โดยในปี 2569 บริษัทจะมีกำลังผลิตใหม่ที่เข้ามาอีกโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าชีวมวล ทำให้ทิศทางการเติบโตของรายได้บริษัทยังคงโดดเด่น


บริษัทยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการหรือ M&A อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทกำหนดแผนระยะ 5 ปี ระหว่าง 2568 - 2572 จะเพิ่มเติมโครงการใหม่ๆ ทดแทนโครงการเดิมที่หมดสัญญาลง เพื่อให้รายได้ตลอด 5 ปีสูงขึ้นทุกปี


ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมีกำไร EBITDA ราว 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% จากไตรมาสสุดท้ายปีก่อน และเพิ่มขึ้น 25.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล และการดำเนินงานโครงการโซลาร์ฟาร์มใหม่ 5 โครงการ


@ กำไรโต 20%


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดว่า กําไรจากการดําเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากโครงการใหม่ที่จะเปิดดําเนินงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จะช่วยหนุนให้กําไรเติบโตในครึ่งหลังปี 2568  ประเมินกําไรปกติปี 2568  จะเติบโต 20% YoY มาอยู่ที่ 1.02 พันล้านบาท โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะคิดเป็นสัดส่วน ~47% ของกําลังการผลิตทั้งหมดของบริษัท เพิ่มขึ้นจาก 23% ในปัจจุบัน 


กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงมีความสามารถในการทํากําไรที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตรากําไรขั้นต้น 73.6% ใน 1Q/2568 สูงกว่าอัตรากําไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัทที่ 30% อย่างมาก ในขณะที่อัตราความสามารถในการขายไฟฟ้า (Capacity Factor) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (<60%) ที่ตํ่ากว่าโรงไฟฟ้าประเภทอื่นๆ (>95%) อาจทําให้ผลกระทบต่อกําไรขั้นต้นโดยรวมมีไม่มากนัก 


นอกจากนี้ ACE กําลังเดินหน้าขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าขยะชุมชนด้วยโครงการใหม่ 7 โครงการ กําลังการผลิตรวม 68.4 เมกะวัตต์ โดยต่อยอดจากความสําเร็จของโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่มีอยู่เดิม โดย 2 โครงการที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้วจะเริ่มดําเนินการในปี 2569 ขณะที่อีก 5 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของประเทศไทย กําลังรออนุมัติ PPA หลังจากได้รับสัมปทานกําจัดขยะ ชื่อเสียงในด้านประสิทธิภาพการดําเนินงานและความสามารถในการกําจัดขยะที่มีความชื้นสูง (สูงถึง 80%) ทําให้ ACE อยู่ในตําแหน่งที่ดีในการเป็นผู้นํากลุ่มโรงไฟฟ้าขยะที่กําลังเติบโตและสนับสนุนเป้าหมายการจัดการขยะอย่างยั่งยืนของประเทศไทย

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X