#MAJOR #ทันหุ้น – MAJOR หนังทำเงินจ่อคิวเข้าฉายไตรมาส 3/2568 ต่อเนื่องไตรมาส 4/2568 หนุนรายได้การขายตั๋วชมภาพยนตร์เร่งตัวแข็งแกร่ง ดันยอดจำหน่ายถังป๊อปคอร์น-แก้วน้ำลายพิเศษสำหรับสะสมเร่งตัวทุกช่องทางจำหน่าย ธุรกิจโบว์ลิ่ง-คาราโอเกะ การเช่าเหมาโรงภาพยนตร์เพื่อจัดงานอีเวนต์ ด้านโบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 15.60 บาท พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4.4%
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า ในงวดไตรมาส 2/2568 จะมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วทะลุ 100ล้านบาท 2เรื่องได้แก่ Lilo & Stitch ทำรายได้ราว 189 ล้านบาท และ Mission : Impossible 8 ทำรายได้ราว 105 ล้านบาท รวมถึงภาพยนตร์หลายเรื่องที่ได้รับความนิยม อาทิ พระแท้คนเก๊ ที่ทำรายได้ราว 97 ล้านบาท A Mine Crat Movie ทำรายได้ราว 88 ล้านบาท และ Thunderbolts ทำรายได้ราว 82 ล้านบาท อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร และ F1 The Movie เบื้องต้นจึงคาดการณ์รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2568 (QoQ) แต่อาจอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) สอดคล้องกับปริมาณภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยม
กระแสตอบรับต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจที่ไม่ใช่โรงภาพยนตร์ ประกอบด้วยการจำหน่าย Popcorn Major ทั้งบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์,
จุดคีออส (Kiosk) และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ยังเร่งตัวสอดคล้องกับกระแสะการสะสม “ถังป๊อปคอร์นเมเจอร์ลายพิเศษ” กลุ่มธุรกิจโบว์ลิ่ง และคาราโอเกะมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงการเช่าเหมาโรงภาพยนตร์จัดงานอีเวนต์ (Event) กิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง
“หน้าหนังปีในงวดไตรมาส 2/2568นี้เมื่อเทียบกับปีก่อนกระแสความนิยมต่างกัน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 ดีกว่ามาก รายได้จากการจำหน่ายตั๋วชมภาพยนตร์จึงเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อภาพยนตร์ได้รับความนิยมการสะสม Popcorn Bucket รวมถึงแก้วน้ำก็ตามมา ส่วนในกัมพูชาจากการติดตามอย่างใกล้ชิดยอดขายไม่ได้ลดลงเลย แม้กระแสข่าวสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายแต่ด้วยสถานที่ทำกิจกรรามเพื่อผ่อนคลาย พักผ่อน (Entertainment) มีน้อยดังนั้นกระแสนิยมจึงลดลงในกรอบจำกัด”
หนังทำเงินจ่อเข้าฉาย
ขณะเดียวกันยังมีภาพยนตร์ภาคต่อที่อยู่ในกระแสนิยมเตรียมเข้าฉายในงวดไตรมาส 3/2568หลายเรื่อง อาทิ Jurassic World,Superman,Fantastic Four รวมถึงภาพยนตร์ไทยที่เป็นที่จับตามอง อาทิ หอแต๋วแตก แหกหลีหู ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้จากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และยังคงมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นแตะระดับที่ดีที่สุดของปีในงวดไตรมาส 4/2568 สะท้อนจากภาพยนตร์ไทยและฮอลีวูดที่จะทยอยเข้าฉาย เช่น ธี่หยด 3, อนงค์ 2, Avatar 3, อีเรียมซิ่ง 2, Tron 3, เสือ, มือปืน
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรปกติงวดไตรมาส 2/2568 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ ตามหน้าหนังน่าสนใจมากขึ้นเช่น Thunderbolt,The Stone พระแท้ และ Mission Impossible แต่ยังมีแนวโน้มใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีหนังไทยทำเงินสูงอย่าง “หลานม่า”
พร้อมกันนี้ MAJOR เร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนไปหลัง COVID-19เช่น การลดรอบฉายช่วงดึกเพื่อลดต้นทุน, การลดพื้นที่เช่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์ และการปรับรูปแบบโรงให้สอดคล้องพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ ฯลฯ เป็นต้น กลยุทธ์ที่หลากหลายประสบความสำเร็จตั้งแต่งวดไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้แม้ว่ารายได้รวมจะลดแต่อัตรากำไรสูงขึ้น
ราคาเป้าหมาย 15.60 บ.
สำหรับปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ อาทิ กรณีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นอัตราภาษีเป็น 100% สำหรับภาพยนตร์ที่ผลิตนอกประเทศสหรัฐอเมริกา, สถานการณ์ระหว่างประเทศกัมพูชา เบื้องต้นยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประกอบการพิจารณาปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสถานการณ์แต่ละช่วงอย่างเหมาะสม
เบื้องต้นบริษัทกระจายความเสี่ยงด้วยการร่วมผลิตภาพยนตร์ไทยกับพันธมิตรที่หลากหลายสร้างรายได้ทั้งจากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ และส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ที่จะเผยแพร่ตามแอปสตรีมมิ่งต่างๆ เบื้องต้นคาดการณ์รายได้รวมทั้งปี 2568 ที่ 8,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% YoY และกำไรปกติที่ 602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% YoY จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.60 บาท พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4.4%
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม