> Trendtalk > CPF

01 กรกฎาคม 2025 เวลา 06:20 น.

เจาะ CPF

#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานฟื้นตัวในระยะสั้นเหนือแนวรับที่ 1,080 หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายที่แนวต้าน 1,115-1,120 ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1,100 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,080 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,060


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่จำแนกธุรกิจหลักตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ ออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) 2. ธุรกิจเลี้ยงสัตว์-แปรรูป (Farm-Processing) 3. ธุรกิจอาหาร (Food) รวมถึงกิจการค้าปลีกอาหารและร้านอาหาร


CPF รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2568 ว่า กำไรสุทธิมีจำนวน 8,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 642% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 1,152 ล้านบาท จากปัจจัยหลัก ดังนี้


1. ระดับราคาสุกรในหลายประเทศอันรวมถึงประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และ ไทย อยู่ในระดับที่สูงกว่าปี 2567จากการปรับสมดุลของอุตสาหกรรมจากภาวะสินค้าล้นตลาดในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับ ปริมาณสุกรในต้นปีนี้มีจำนวนลดลงจากโรคระบาดที่เกิดขึ้นในหลายประเทศตั้ง แต่ช่วงปลายปี 2567 มาถึงปัจจุบัน


2. การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการบริหารลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และ การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ


3. ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 3,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92%โดยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทร่วมในประเทศจีนที่ดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และสุกร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ การร่วมค้าในประเทศแคนาดา


ในขณะที่รายได้จากการขายในไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 144,175 ล้านบาท เป็นส่วนของกิจการต่างประเทศ 62% และ กิจการประเทศไทย 38% รายได้จากการขายรวมเพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ หากไม่นับรวมผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจในประเทศไทย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และ จีน เป็นหลัก


นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยผลดำเนินงาน Q1/68 กำไร 8,549 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 642% หรือโต 6 เท่า จากความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ และความเคร่งครัดของระบบป้องกันโรคในฟาร์มที่เข้มงวด ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยท่ามกลางโรคระบาด สะท้อนศักยภาพผู้นำเกษตรอาหารที่ให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพ


การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปีนี้ดีเด่นขึ้น มาจากการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ประกอบกับการระบาดของโรคสัตว์โดยเฉพาะไข้หวัดนก ซึ่งกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก และโรค ASF ของสุกรที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มีผลทำให้จำนวนไก่และสุกรมีน้อยกว่าปกติ ตลอดจนราคาวัตถุดิบอยู่ในฐานที่ยังไม่สูงเกินไป ทำให้ผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ซีพีเอฟลงทุนไว้มากกว่า 10 ประเทศ


ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมมีการปรับสมดุลจากความท้าทายในอดีต ในส่วนของปัญหาความปั่นป่วนจากเรื่องภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้มีผลกระทบกับซีพีเอฟ เพราะซีพีเอฟมีการลงทุนในธุรกิจอาหารพื้นฐานที่ราคาไม่แพง มีการผลิตอยู่ในกว่า 10 ประเทศและขายในประเทศนั้นเป็นหลัก ขณะที่บริษัทพึ่งพาการส่งออกประมาณ 4-5% โดยการส่งออกส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยุโรปเป็นหลัก มีการส่งออกไปสหรัฐ ประมาณ 0.3% เท่านั้น

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่แนวรับ 22.00 หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับที่ 25.00 ลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 24.00 และ 24.70 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 22.00 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 20.00



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้


Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X