> เคาะไปคุยไป > GPSC

24 มิถุนายน 2025 เวลา 06:40 น.

เคาะ GPSC

#ทันหุ้น - ไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,140ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ (+140 ล้านบาท) และ YoY (+276ล้านบาท) จากต้นทุนคงที่ที่ลดลงตามฤดูกาล, เบี้ยประกันที่ลดลง, และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก AEPL (ในอินเดีย) ที่ COD โครงการใหม่ในช่วงรังสีสูง และมีน้ำเข้าเขื่อนมากจาก El Niño/La Niña ขณะเดียวกันบริษัทบริหารต้นทุนเชื้อเพลิงได้ดี โดยเฉพาะถ่านหินที่เลือกซื้อจากแหล่งต้นทุนต่ำ ส่งผลให้ EBITDA อยู่ที่ 4,791 ล้านบาท แม้ปริมาณขายไฟฟ้าลดลงทั้งใน IPP และ SPP แต่การขายไอน้ำเพิ่มขึ้น และ SPP มีราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ ด้านฐานะการเงินยังแข็งแกร่งด้วยเงินสดในมือ 18,000 ล้านบาท, อัตราหนี้สุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 0.84 เท่า, และอัตราชำระดอกเบี้ยที่ 1.6 เท่า ขณะที่ต้นทุนหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.5% และ 55% ของหนี้เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ แสดงถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนทางการเงินในช่วงดอกเบี้ยสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ


แนวโน้มในไตรมาส 2 และตลอดทั้งปีของ GPSC มีทิศทางเชิงบวกจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง โดยราคาก๊าซคาดว่าจะอยู่ที่ 320-330 บาท และต้นทุนถ่านหิน (COC) อยู่ที่ 105-120 บาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน ขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยตลอดปีอยู่ในช่วง 19.72–36.72 สตางค์/หน่วย ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ และอาจต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปีที่แล้วเนื่องจากความต้องการไฟฟ้าที่ลดลงจากการหมดอายุสัญญา PPA กับ EGAT บางส่วน ด้านความต้องการใช้ไฟฟ้าใน SPP ไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ทั้งปีอาจลดลงเล็กน้อยจากการหมดอายุ PPA บางส่วน ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าควบคุมต้นทุนผ่านโครงการ EBITDA Uplift และปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนเพื่อรักษาระดับผลตอบแทนตามเป้าหมาย โดยอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน


ด้าน IAA consensus ประเมินกำไรสุทธิปีนี้เฉลี่ยเท่ากับ 4.5 พันล้านบาท +10%YoY จากการรับรู้โครงการในอินเดียที่มีศักยภาพสูง และโครงการพลังงานลมในไต้หวันที่รับรู้เต็มปี ส่วนราคาเป้าหมายเฉลี่ยเท่ากับ 36.50 บาท ในเชิง sentiment ขานรับการสนับสนุนนโยบายพลังงานสะอาด ซึ่งบริษัทอาจจะได้ประโยชน์โดยตรงทั้ง โอกาสในการลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวลและพลังงานขยะ และลดความผันผวนของราคาเชื้อเพลิงมากขึ้น


แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค  ปรับลงสร้างจุดต่ำใหม่กว่าและกลับตัวขึ้นปิดแท่งเทียนสัญญาณบวก ระยะสั้นเน้นยืนแนวรับเป็นจุดพิจารณาสำคัญ จากภาวะขายมากและสัญญาณบวกในindicatorมีโอกาสเกิดKey reversal แนวต้านSMA5วันและSMA13วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวต้านขาลง ผ่านยืนควรมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น


คำแนะนำ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 28.50/30.25

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 26.50/25ไม่ควรต่ำกว่า


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X