AOT โบรกปรับลดคำแนะนำ-ราคาเหมาะสม หลัง KPD ขอยกเลิกสัญญา

#aot #ทันหุ้น – กรณี บริษัทคิงเพาเวอร์แจ้งขอยกเลิกสัญญาร้านสินค้าปลอดอากร (duty free) กับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ AOT ส่งผลให้ราคาหุ้น AOT ปรับลดลงจาก 32.50 บาท เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. มาที่ระดับ 28.50 บาท ในการซื้อขายวันที่ 16 มิ.ย.หรือลดลง 12%

โบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์หุ้น AOT วันที่ 16 มิ.ย. มีการปรับลดคำแนะนำ และลดราคาเป้าหมาย

บล.ทิสโก้คงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ AOT โดยปรับมูลค่าที่เหมาะสม (TP) เป็น 25.00 บาท ลดลงจาก 37.00 บาท มูลค่าที่เหมาะสมนี้คิดเป็นอัตราส่วน P/E ปี 2026 ที่ 18.3 เท่าสอดคล้องกับผู้ประกอบการท่าอากาศยานในภูมิภาค ยกเว้นท่าอากาศยานในจีน

บล.ทิสโก้ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรลง 19% สำหรับปี 2569 และ 17% สำหรับปี 2570 การปรับลดนี้เกิดจากปัจจัยหลักสามประการ ประการแรก บล.ทิสโก้ได้ลดการคาดการณ์จำนวนผู้เดินทางต่างชาติ โดยเฉพาะเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนส่งผลให้จำนวนผู้โดยสาร (PAX) ลดลง 5-7% ประการที่สอง บล.ทิสโก้ได้ลดการคาดการณ์สำหรับการใช้จ่ายต่อผู้โดยสารในทุกท่าอากาศยาน โดยลดรายได้สัมปทานต่อผู้โดยสาร 20% สอดคล้องกับมุมมองของ KP เกี่ยวกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการรักษาความสามารถในการทำกำไรในส่วน duty-free ประการที่สาม บล.ทิสโก้ได้นำข้อมูลกำไรล่าสุดมาพิจารณา ซึ่งรวมถึงรายได้สัมปทานต่อผู้โดยสารปี 2568 ที่สูงกว่าคาดหวัง เนื่องจาก AOT รับรู้รายได้รอการรับรู้ ตรงข้ามกับการคาดการณ์เดิมของบล.ทิสโก้ที่คาดว่าจะมีการลดการชำระเงิน เรายังเน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้าน downside ที่อาจเกิดขึ้น 1.4 บาทต่อหุ้น ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือค้ำประกันธนาคารที่ค้างอยู่จาก King Power หาก AOT ไม่สามารถเอาคืนทั้งหนังสือค้ำประกันการชำระเงินรอการรับรู้ และหนังสือค้ำประกันสัญญาเต็มจำนวนได้ ความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดอาจถึง 20,000 ล้านบาท ตามการประมาณการของเรา

บล.อินโนเวสท์เอกซ์ปรับลดคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ระยะ 3 เดือนสำหรับ AOT ลงสู่ Underperform (จาก Neutral ) และปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ใหม่เป็น 26 บาท/หุ้น เนื่องจากเราพบปัจจัย overhang ธุรกิจสัมปทานเพิ่มขึ้นซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นในระยะข้างหน้า ปัจจัยบวกที่อาจนำไปสู่การ re-rating AOT คือ ความชัดเจนเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงสัมปทาน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของ AOT มากขึ้น แต่บล.อินโนเวสท์เอกซ์ ประเมินว่าแนวทางแก้ไขปัญหาอาจใช้เวลานานกว่าที่ AOT คาดการณ์ไว้ที่ 60 วัน โดยเฉพาะในกรณีหาก AOT ต้องเริ่มกระบวนการประมูลใหม่

บล.บัวหลวงปรับลดคำแนะนำเป็นขาย ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 จากความกังวลรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์และร้านค้าปลอดภาษีที่ลดลง ซึ่งราคาหุ้นปรับลดลง 41% นับตั้งแต่เราปรับลดคำแนะนำ นอกจากนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงอีก 7% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการเจรจาทบทวนสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี บล.บัวหลวงจึงปรับลดประมาณการกำไรลงเพิ่มเติม และยังคงคำแนะนำ "ขาย"

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ปรับสมมติฐานในการวิเคราะห์ให้ conservative ยิ่งขึ้น โดยมีสมมติฐานว่า AOT จะรับรายได้สัมปทานทั้งดิวตี้ฟรีและเชิงพาณิชย์จากสัญญาที่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) กับ King Power ในรูปแบบส่วนแบ่งรายได้ (revenue-sharing) ใหม่ที่อัตรา 20% แทนรูปแบบเดิมที่มี Minimum guarantee ซึ่งทำให้รายได้หายไปประมาณ 33% ของรูปแบบเดิม รวมถึงมีสมมติฐานว่าจะไม่มีรายได้สัมปทานดิวตี้ฟรีจาก KPD ที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินภูมิภาคตั้งแต่ก.ค.68 เป็นต้นไป และไม่มีรายอื่นเข้ามาแทน ซึ่งส่วนนี้จะทำให้รายได้หายไป 2-3 พันล้านบาทต่อปี

บล.ดีบีเอสฯ แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐานใหม่ 23 บาท (DCF) ซึ่งลดลงจากเติมที่ 45 บาท ความเสี่ยงอีกประเด็นที่ต้องจับตา คือ KPD ยังเป็นลูกหนี้การค้าประมาณ 6.5 พันล้านบาทในสิ้นมี.ค.68 ซึ่งยังไม่ได้มีการตั้งสำรองฯ เพราะบริษัทระบุว่ามีแบงค์การันตี

บล.กรุงศรีระบุว่า Overhang จาก King Power กำลังจะยุติ

บล.กรุงศรีมอง Negative ต่อประเด็น King Power ยื่นขอยกเลิกสัญญา Duty Free สนามบินภูเก็ต-เชียงใหม่-หาดใหญ่ ประเมินเป็น Downside ต่อรายได้ AOT -12% จากการแก้ปัญหาทุกสัญญากับ King Power อิงผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่เป็นไปได้ทางธุรกิจในสถานการณ์ปัจจุบัน บล.กรุงศรีปรับกำไรปิ 68-70 ลดลง -20-35% เปลี่ยนคำแนะนำเป็น Neutral (เดิม Buy) และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 31.25 บาท (เดิม 64.50 บาท)

บล..หยวนต้าระบุว่า ผลกระทบถือว่าไม่ได้มีนัยสำคัญ และราคาหุ้น -7% DoD คาดสะท้อนประเด็นลบนี้ไปมาก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการต่อรองเงื่อนไขของสัมปทานที่เหลือยู่คือสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองจะเป็น Overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้น เราประเมินโอกาสต่ำที่ทุกสัมปทานจะถูกยกเลิก เพราะจะนำไปสู่การฟ้องร้องและยึด Bank Guarantee ดังนั้นการเจรจาเพื่อปรับลด MAG อาจเป็นทางเลือกหลักสำหรับทั้งสองฝ่าย (หมายเหตุ: ประมาณการของเราสะท้อนการปรับลด MAG ลง 20% จากปัจจุบัน แต่มี Downside อีก 30% หากต้องปรับเงื่อนไขลงไปใกล้เคียงปี 2018หรือสัมปทานเก่า)

AOT จัดประชุมเพื่อให้ผู้บริหารชี้แจงข้อมูลในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มิ.ย.) คาดประเด็นที่ตลาดสนใจ i) จำนวนสัมปทานที่ถูกยื่นขอเจรจา ii) แนวทางเบื้องต้นในการเจรจาของ AOT และ iii) หากยกเลิกจริง จำนวนหลักประกันหรือค่าปรับที่ AOT จะได้รับชดเชยในกรณีที่คู่ค้าผิดสัญญา

บล.หยวนต้าคงคำแนะนำ "Trading" อิงราคาเหมาะสมที่ 38.00 บาทต่อหุ้น เชิงกลยุทธ์แนะนำหลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนไปก่อนระยะสั้นหุ้นมีโอกาสถูกกดดันจากปรับลดประมาณการ อีกทั้งยังเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ

ความเสี่ยงสำคัญ: ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่ำคาคาด มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม และเศรษฐกิจดดถอยรุนแรงทั่วโลก

บล.ฟิลลิป ระบุว่า คิงเพาเวอร์ขอยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี 3 สนามบินภูมิภาค คิงเผาเวอร์ขอเลิกสัญญาดิวตี้ฟรีสนามบินบินภูมิภาคเชียงใหม่-ภูเก็ต-หาดใหญ่ จากหลายเหตุผลที่ทำให้คิงเพาเวอร์ขาดทุนรายได้ 3 สนามบินภูมิภาคปี 2567 และครึ่งปีแรก 2568 คิดเป็น 2.1%-2.2% ของรายได้ ไม่ได้มีนัยมาก และคาดจะมีการเจรจาหาข้อสรุปร่วมได้ ไม่น่ายุติธุรกิจไปเลย บล.ฟิลลิปมองกระทบราคาหุ้นไม่ควรกระทบมาก ราคาหุ้นต่ำว่าช่วงโควิดที่มีผลขาดทุนแต่ตอนนี้มีกำไรแล้ว ไม่สมเหตุผลที่ต่ำกว่าช่วงโควิด ยังแนะนำ "ซื้อ"