11 มิถุนายน 2025 เวลา 06:40 น.
#HANA #ทันหุ้น-บริษัทรายงานผลประกอบการ Q1/2025 ที่แข็งแกร่ง แม้เผชิญแรงกดดันจากรายได้รวมที่ลดลง 18% YoY เหลือ 5.25 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในธุรกิจ OSAT และ EMS รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 9% และมีกำไรสุทธิปกติ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY และ 48% QoQ ขณะที่กำไรสุทธิหลังภาษีพุ่งขึ้นถึง 53% YoY และ 128% QoQ โดยได้แรงหนุนจากรายได้อื่น 340 ล้านบาท (รวมรายได้พิเศษจากการโอนเทคโนโลยี 238 ล้านบาท) และค่าใช้จ่ายด้อยค่าที่ลดลง ทั้งนี้สถานะเงินสดสุทธิยังแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 18% แตะระดับ 10.2 พันล้านบาท สะท้อนฐานะการเงินที่มั่นคง
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Oppday ล่าสุด เกี่ยวกับผลการดำเนินงานของ HANA แยกตามโรงงานสะท้อนผลกระทบที่แตกต่างกันจากภาษีการค้าและอุปสงค์ในแต่ละภูมิภาค โดยโรงงานลำพูนยังทรงตัว QoQ แต่รายได้ลดลง YoY จากภาษี แม้ลูกค้าสหรัฐ ยังคงสนับสนุน และคาดหวังโอกาสจากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ขณะที่จีนได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีนำเข้าสหรัฐ ทำให้รายได้ลดลงต่อเนื่อง แม้ยังมีกำไรเล็กน้อย ด้านอยุธยาประสบภาวะอุปสงค์อ่อนแอโดยเฉพาะกลุ่ม Opto ถึงขั้นหยุดผลิตบางวัน ส่วนโรงงานสหรัฐได้รับผลกระทบทางอ้อมจากลูกค้าปลายทางที่นำเข้าสินค้าจากจีน แม้ธุรกิจ RFID ยังเติบโต
ขณะที่กัมพูชาเป็นผู้รับอานิสงส์จากการโอนย้ายธุรกิจจากจีน รายได้จึงเติบโตดี แต่ยังเผชิญภาษีนำเข้าสหรัฐที่สูง ส่วนโรงงาน PMS ในเกาหลีเผชิญภาวะขาดทุนจากการแข่งขันในตลาด Wafer แต่มีรายได้พิเศษจากการโอนเทคโนโลยีและอยู่ระหว่างแผนโอนย้ายการผลิตไปจีนเพื่อลดต้นทุนในระยะถัดไป ทั้งนี้ผู้บริหารมองว่า การขึ้นภาษีของทรัมป์เป็นเพียง "การเจรจาต่อรอง" และคาดว่าในที่สุดจะลดลงมาอยู่ในระดับที่จัดการได้ เนื่องจากสหรัฐ เองก็กังวลเรื่องเงินเฟ้อ ควรรอดูผลสรุปในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
ข้อมูลจาก IAA consensus ประเมินกำไรสุทธิเฉลี่ยปีนี้เท่ากับ 1.16 พันล้านบาท และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 19.19 บาท โดยแนวโน้ม 2Q/25คาดว่ารายได้จะชะลอตัวลงจากสถานการณ์สงครามการค้า ทำให้ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อ แต่ได้แรงหนุนจากการขาดทุนของ PMSที่ลดลง ส่วนในเชิง Sentiment คาดหวังการเจรจาการค้าสหรัฐ และจีนในเชิงบวก รวมถึงการเจรจาการค้าสหรัฐ-ไทย มีความคืบหน้าเพิ่มเติม
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ปรับตัวลงสร้างแนวรับ Double Bottom บริเวณ 17.70-17.50 และมีแรงซื้อเล่นรอบขึ้นยืนเหนือและแกว่งตัวขึ้นตามSMA5วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้น ยืนเหนือมั่นคงสัญญาณซื้อแท่งเทียน แนวต้านจุดสูงรอบที่ผ่านมา 19.60 ผ่านยืนและมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณซื้อรูปแบบW
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 19/19.60/20.10
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 18.50/17.70-17.50 ไม่ควรต่ำกว่า
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม