#หุ้นกลุ่มอาหาร #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดย บล.กรุงศรี
.
ได้รับผลกระทบจากฤดูร้อนที่ไม่ร้อนนัก
กำไรหลัก ไตรมาส 1/68 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+1% YoY, +19% QoQ) เติบโตน้อยเนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็นสบาย
กลุ่มเครื่องดื่มที่บล.กรุงศรีวิเคราะห์ SAPPE, CBG, OSP, ICHI, TACC มีกำไรหลักเติบโต โดยเฉลี่ยที่ 1% YoY และ 19% QoQ (แตะ 2.3 พันล้านบาท) เติบโต YoY น้อยเนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบาย ทำให้กระทบยอดขายเครื่องดื่ม SAPPE มีกำไรหลักลดลง 40% YoY (แตะ 221 ล้านบาท) เนื่องจากยอดขายในต่างประเทศ (80% ของยอดขาย) -51% YoY (747 ล้านบาท) จากปัญหาการสต๊อกสินค้ามากเกินไป และเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ถึงแม้ยอดขายในประเทศจะเติบโต 27% YoY (395 ล้านบาท) ICHI กำไรหลักลดลง 32% YoY (245 ล้านบาท) เนื่องจากยอดขายลดลง 18% YoY (แตะ 1.7 พันล้าน) เพราะอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ด้วยยอดขายที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้น -2.5ppt YoY (23.6%) เพราะกำลังการผลิตในโรงงานลดลง OSP กำไรหลัก +177% YoY (แตะ 970 ล้านบาท) เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ +3.8ppt YoY (40.3%) เพราะราคาวัตถุดิบของบรรจุภัณฑ์ (soda ash, aluminium ลดลง) ถึงแม้ยอดขายจะหดตัว 6% YoY (แตะ 6.8 พันล้าน) เพราะการสูญเสียมาร์เก็ตแชร์ในประเทศทั้งในส่วนของเครื่องดื่มชูกำลังและ functional drinks ในทางกลับกัน CBG มีกำไรหลักเพิ่มขึ้น 21% YoY (แตะ 760 ล้านบาท) เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น 8%YoY (5.3 พันล้านบาท) จากการได้มาร์เก็ตแชร์ของเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศเพิ่มขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอลูมิเนียมลดลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น +0.7ppt (แตะ 27.4%) สำหรับ TACC กำไรหลัก +20% YoY (แตะ 73 ล้านบาท) ซึ่งมาจากยอดขายใน 7-11 (90% ของยอดขาย) ที่ทำได้ดีต่อเนื่อง และเติบโตได้ 16% YoY (แตะ 530 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้น -1.4ppt YoY (แตะ 32.5%) เพราะราคาเมล็ดกาแฟเพิ่มสูงขึ้น
.
คาดไตรมาส 2/68 ยอดขายอาจหดตัว YoY เพราะเป็นฤดูร้อนที่ไม่ร้อนมากนัก
บล.กรุงศรีคาดว่าไตรมาส 2/68 ยอดขายอาจหดตัว YoY เพราะฤดูร้อนในปีนี้ไม่ร้อนมากนัก และในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังที่มักไม่มี seasonality มากนัก แต่ในไตรมาส 2/68 มีความไม่แน่นอนในด้านการเพิ่มขึ้นของยอดขาย เนื่องจากมีการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ (CBG และ OSP) เพราะ OSP ออกสินค้าใหม่ราคา 10 บาทออกมาในปลายเดือนมกราคม เพื่อทวงมาร์เก็ตแชร์ในกลุ่ม 10 บาทคืน อย่างไรก็ดี แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นยังสูงต่อเนื่องเพราะราคาวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ (น้ำตาล อลูมิเนียม โซดาแอช) ลดลงต่อเนื่อง สำหรับ SAPPE ที่มียอดขายต่างประเทศเป็นหลักนั้น ยอดขายจะเริ่มดีขึ้น QoQ แต่ยังคง YoY ในไตรมาส 2/68 เพราะการ overstock ยังมีอยู่ แต่คาดว่ายอดขายจะกลับมาโต YoY ได้ตั้งแต่ ไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป
.
คาดกำไรหลัก 2568 โต 1.9%
บล.กรุงศรีคาดว่ากำไรหลักปี 2568 โตเพียง 1.9% เนื่องจากมีการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง และยอดขายส่งออกอาจไม่โดดเด่นนักสำหรับ SAPPE
.
บล.กรุงศรีให้น้ำหนักกลุ่มเป็น Bullish หุ้น Top Pick - CBG (TP 97.00 บาท)
บล.กรุงศรีให้น้ำหนักกลุ่มเป็น Bullish จาก valuation ที่ตกลงมากแล้ว -1SD ถึง -2SD บล.กรุงศรีเลือก CBG เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากมีการเติบโตของยอดขายที่ดีเนื่องจากได้มาร์เก็ตแชร์เพิ่มในเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ และการสร้างโรงงานเครื่องดื่มชูกำลังในเมียนมาในปี 2568 น่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มและอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม เพราะยอดขายในเมียนมามีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม