เคาะ GPSC

#ทันหุ้น - GPSC รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q25 ที่ 1.14 พันล้านบาท +14%QoQ, +32%YoY จากการเพิ่มขึ้นของ Gross profit ที่ดีขึ้นตามการบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันภัยโรงไฟฟ้าลดลง รวมถึงปริมาณความต้องการไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ค่าเสื่อมราคาฯ ลดลงจาก GLOW ตามอายุสัญญา ด้านรายได้จากการขายไฟฟ้าชะลอตัวลงทั้ง QoQ และ YoY โดย IPP (23% ของรายได้) ลดลงจากปริมาณขายไฟของโรงไฟฟ้าเก็คโค-วัน ส่วน SPP (75% ของรายได้) ลดลงจากมีลูกค้าบางรายหยุดซ่อมบำรุงตามแผนงาน และปริมาณการขายไฟให้กับ กฟผ. ลดลง ส่วนราคาขายไฟลดลง YoYจากการปรับลดค่า Ft

ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมใน 1Q25 ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับผลิตไฟฟ้า (Pool Gas) เฉลี่ยอยู่ที่ 313 บาทต่อล้านบีทียู ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในตลาดโลกที่สูงขึ้น รวมถึงอุปสงค์จากประเทศเศรษฐกิจใหญ่ เช่น จีน อินเดีย และยุโรป แม้ว่าราคา Spot LNG จะเริ่มลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ผู้บริหารคาดว่าราคา Pool Gas จะมีแนวโน้มใกล้เคียงปีที่ผ่านมา เนื่องจากสัดส่วนการใช้ก๊าซนำเข้าเพิ่มขึ้นและต้นทุนระยะยาวยังสูง ด้านราคาถ่านหิน NEWC ลดลงมาอยู่ที่ 105 ดอลลาร์ต่อตัน จาก 126 ดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงบางส่วนลดลงเล็กน้อย ส่วนด้านอัตราแลกเปลี่ยน THB/USD มีแนวโน้มอ่อนค่าจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่สูงกว่า กระทบต่อ fund flow ไหลออก ส่วน TWD/USDมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น จากความไม่แน่นอนทางการค้า และการแทรกแซงของธนาคารกลาง

Bloomberg consensus ประเมินราคาเป้าหมายเฉลี่ยเท่ากับ 38.22 บาท โดยคาดว่าแนวโน้ม 2Q25 จะชะลอตัวลงจากการหยุดจ่ายไฟตามแผน รวมถึงแนวโน้ม GPM ที่ลดลงแม้ต้นทุนเชื้อเพลิงจะทรงตัว และการปรับลดค่า Ft แต่ยังได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ Avaada ส่วนในเชิง sentiment เรามองว่าการปรับลดค่า ft ได้อีกเป็นเรื่องยาก เนื่องจากภาระการคืนหนี้ กฟผ. ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งกระทบต่อโครงสร้างราคาค่าไฟ ทำให้เมื่อต้องมีการแก้ไขจะต้องใช้เวลาในการเจรจา และแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟของทั้งอุตสาหกรรม

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระดับราคาและแท่งเทียนสัญญาณบวกแกว่งตัวผ่านยืนกรอบจุดสูงแท่งเทียนหรือบริเวณTriple Top 32-31.50 ขึ้นมายืนเหนือได้มั่นคง แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นตามกันกับSMA5วันและ13วัน ปรับทดสอบไม่ควรต่ำกว่า แนวต้านจุดทดสอบ 35.00 และGapแนวต้าน 36.75-37

คำแนะนำ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 365/36.75-37

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 32-31.50/30ไม่ควรต่ำกว่าลงมา