SPRC +2.83% จับตากำไร Q1/68 โบรกคาดประมาณ 500 ลบ.

#sprc #ทันหุ้น - บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC โบรกเกอร์คาดว่าจะแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ในวันที่ 7 พ.ค. โดยโบรกเกอร์คาดว่า จะมีกำไรสุทธิ ระดับ 500 ล้านบาท กำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ และจะลดลง YoY

สำหรับ IAA Consensusโบรกเกอร์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” 8 ราย แนะนำ “ถือ” 6 ราย แนะนำ “ขาย” 1 ราย ให้ราคาเหมาะสมในช่วง 4.80-9.00 บาท มีค่ากลาง (Median) 6.40 บาท

การซื้อขายหุ้น SPRC วันที่ 7 พ.ค.68 ราคาเคลื่อนไหวในช่วง 5.30-5.55 บาท ปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.83% มูลค่าการซื้อขาย 33.85 ล้านบาท

โบรกเกอร์มีมุมมองและการคาดการณ์ผลงานไตรมาส 1/68 ของ SPRC ดังนี้

บล.กสิกรไทยระบุว่า SPRC: แนวโน้มกำไรอ่อนตัว และปันผลไม่ดึงดูด

บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 1/2568 จะลดลง 96% YoY และ 52% QoQ เหลือ 81 ลบ. จากค่าการกลั่นที่ลดลง แม้อัตราการใช้กำลังการกลั่นจะเพิ่มขึ้น

แต่จะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้กำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ 450 ลบ. เพิ่มขึ้น 176% QoQ แต่ลดลง 89% YoY

ไตรมาส 2/2568 อาจขาดทุนสุทธิจากผลขาดทุนสต๊อก แม้กำไรปกติอาจดีขึ้นเล็กน้อย

ผู้บริหารคาดจ่ายปันผล 50–60% ของกำไรปกติ คาดว่าเงินปันผลระหว่างกาลอยู่ที่ 0.05–0.07 บ./หุ้น หรือให้ผลตอบแทนเพียง ~1%

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 5.50 บ. เพราะ upside จำกัด และแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรยังมีอยู่

บล.เอเซียพลัสคาดว่า SPRC จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 473.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 162.1 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการกลับมาบันทึกกำไรสต๊อกน้ำมันและ NRV รวม 233.4 ล้านบาท จากเดิมที่เคยขาดทุนในไตรมาสก่อน 292 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กำไรปกติคาดว่าจะลดลง 46.2% QoQ เหลือ 112 ล้านบาท เนื่องจากค่าการกลั่นลดลงเหลือ 4.0 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล แม้ว่าอัตราการใช้กำลังการผลิต (U-rate) จะเพิ่มขึ้นเป็น 94% จาก 89% เพราะไม่มีแผนหยุดซ่อมเหมือนไตรมาสก่อน

เมื่อเทียบกับประมาณการเดิม กำไรปกติไตรมาสนี้คิดเป็นเพียง 3.8% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลง 31.8% เหลือ 2,000 ล้านบาท โดยให้เหตุผลเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่อ่อนตัว ภายใต้หลักระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่ากำไรปกติปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 4.8%YoY จากต้นทุนดำเนินงานเฉลี่ยที่ลดลง

สำหรับไตรมาส 2/68 คาดว่ากำไรปกติจะยังอ่อนตัวลง QoQ ต่อเนื่องจากค่าการกลั่นที่ลดลงหลังผ่านพ้นฤดูหนาว และอาจมีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้ราคาพื้นฐานใหม่สำหรับปี 2568 ปรับลดลงเหลือ 6.50 บาทต่อหุ้น (จากเดิม 8.00 บาท) โดยยังคงแนะนำ "Neutral" พร้อมแนะนำนักลงทุนรอจังหวะเทรดตามความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก

บล.กรุงศรี ระบุว่าไตรมาส 1/68 ฟื้นตัว แต่จะเผชิญ Stock Loss ใน ไตรมาส 2/68

บล.กรุงศรีกำลังอยู่ระหว่างการปรับลดประมาณการ แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SPRC ที่ราคาเป้าหมาย 8.0 บาท

ในระยะสั้น หุ้น SPRC อาจเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มขาดทุนในปี 2568 ซึ่งถูกฉุดโดย Stock Loss จำนวนมาก (แม้ว่า ไตรมาส 1/68 จะฟื้นตัว QoQ และสนับสนุนให้ภาพรวมครึ่งปีแรก 2568 ยังฟื้นตัว HoH)

แนะนำ “รอผ่านช่วงแรงกดดัน” เพื่อซื้อรับการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 2568 โดยบล.กรุงศรีคาดว่า Stock Loss จะไม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีแนวโน้มว่าการเจรจาการค้าทั่วโลกจะทยอยฟื้น ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันไม่หดตัวแรงเหมือนช่วงโควิด

ขณะเดียวกัน OPEC+ ก็มีโอกาสปรับแผนการผลิตให้สอดรับกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอกว่าคาด ซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวได้

บล.กรุงศรียังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันในปี 2568–2570 ที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) สูงกว่าอุปทานใหม่เฉลี่ยที่ 0.7 mbd ซึ่งจะช่วยหนุนให้ค่าการกลั่น (GRM) อยู่ในระดับสูงกว่าต้นทุนการผลิต (cash cost)

บล.หยวนต้าคาดไตรมาส 1/68 SPRC จะมีกำไรสุทธิ 525 ล้านบาท ฟื้นตัว +224% QoQ จากขาดทุนสต๊อกในไตรมาสก่อน ทั้งนี้ นับเฉพาะกำไรปกติจะลดลง QoQ ตามทิศทาง Crack Spread โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 จะ -87%YoY จากทั้งอัตรากลั่น, ค่าการกลั่น, กำไรสต๊อกน้ำมัน

ปรับกำไรสุทธิปี 2568–2569 ลง 36–59% เป็น 1.0 พันล้านบาท และ 1.2 พันล้านบาทตามลำดับ เพื่อสะท้อนความเสี่ยงอุปสงค์ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยยังไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน

แนวโน้ม 2568 ยังไม่เด่น โดย 2QTD ค่าการกลั่นและต้นทุนน้ำมันยังอยู่ระดับใกล้เคียงกับ ไตรมาส 1/68 ทั้งนี้ การปรับฐานของราคาน้ำมันตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. ทำให้มีความเสี่ยงบันทึกขาดทุนสต๊อกน้ำมัน

ผลประกอบการปี 2568 ลดลง YoY, การฟื้นตัวปี 2569 ถูกจำกัดด้วยวัฏจักรหยุดซ่อมใหญ่, งบครึ่งปีแรก 2568 ไม่เด่น

กดดันจากความเสี่ยงขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ซึ่งอาจกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล

บล.หยวนต้าปรับคำแนะนำลงเป็น Trading ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2568 ที่ 5.40 บาท

บล.เคจีไอคาดว่ากำไรสุทธิของ SPRC ใน ไตรมาส 1/68F จะอยู่ที่ 670 ล้านบาท (-83%YoY, +314% QoQ) โดยกำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะ market GRM ลดลงมาอยู่ที่ USD 4.4/bbl (-47% YoY) เนื่องจากค่าการกลั่นสูงมากเป็นพิเศษในไตรมาส 1/67

ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะ : บล.เคจีไอคาดว่า SPRC จะบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 290 ล้านบาทใน ไตรมาส 1/68 ดีขึ้นจากที่ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 291 ล้านบาทใน ไตรมาส 4/67

บล.เคจีไอคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 7% QoQ เป็น 165 KBD

แต่อย่างไรก็ตาม บล.เคจีไอปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568 เป็น 6.40 บาท จากเดิม 9.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 5.0x เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไร

บล.เคจีไอยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” SPRC เพราะคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/68 จะดีขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ราคาหุ้นในปัจจุบันจะอยู่ในระดับน่าสนใจที่ 6.9% ในปี 2568 และ 12.2% ในปี 2569 อิงจากอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงถึง 65% สำหรับทั้งสองปี