#TOP #ทันหุ้น-โบรกเกอร์ 2 รายออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOP โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อน หรือ QoQ แต่ลดลง 41% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันก็เตรียมเดินหน้าหาผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหม่ ที่่เกี่ยวกับ EPC ในโครงการพลังงานสะอาด หรือ CFP
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า การที่ TOP มีการยกเลิกสัญญา EPC ก่อสร้างโครงการ CPF กับกลุ่มกิจการร่วมค้า UJV (Samsung E&A (Thailand), Petrofac, Saipem Singapore) ไม่ส่งผลต่อระยะเวลาก่อสร้างของ CFP ซึ่งฝ่ายวิจัยมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าว ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือการรักษาสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายภายใต้หลักประกันตามเงื่อนไข ,ผลสรุปข้อพิพาทในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ, การทบทวน Credit Rating
โดยเดือนพ.ค. - มิ.ย. จะเป็นช่วงทบทวน Credit Rating ของ S&P และ Moody’s ปัจจุบันอยู่ระดับ BBB Negative Outlook และ Baa3 Negative Outlook ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่า Non-investment Grade 2 Notch และ 1 Notch ตามลำดับ โดยบริษัทฯ มีแนวทางรักษาการจัดอันดับให้อยู่ระดับ Investment Grade ผ่านเครื่องมือการเงินทั้งการพิจารณาออก Perpetual Bond (อาจจะช่วง 2H25) และการทำ Asset Monetization
-คงประมาณการ และคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 29.00 บาท จาก Valuation ไม่แพงซื้อขายบน PBV 0.3 เท่า นับว่ามีส่วนลด -2.2 SD
-เชิงกลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรรอบสั้น ตามข่าวความคืบหน้าสงครามการค้า ทั้งนี้ หากรับความเสี่ยงได้น้อยอาจรอดูความชัดเจนจากสงครามการค้าก่อนเข้าลงทุน เพราะ 1) หุ้นอยู่ในกลุ่ม Global Play ซึ่งระยะนี้ยังผันผวนจากข่าวความคืบหน้าสงครามการค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอด 2) แรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบปรับฐานช่วงต้นเดือนเม.ย. ทำให้งบไตรมาส 2/68 ไม่เด่น 3) คาบเกี่ยวช่วงทบทวน Credit Rating เดือนพ.ค. -มิ.ย.
**คาดกำไร Q1/68 ที่ 3.5 พันลบ.
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) คาดว่า TOP จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% QoQ แต่ลดลง 41% YoY ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาการรับรู้กำไรจากสต็อกจำนวนมาก เพียงพอชดเชย market GRM ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม Core profit ปรับลดลงทั้ง QoQ และ YoY เป็นผลมาจาก market GIM ที่ลดลง
แนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/68 จะทรงตัว QoQ จากการฟื้นตัวของ Aromatics spread เพียงพอชดเชย Market GRM จะลดลงเล็กน้อยจาก GRM ของ Middle distillate ที่ลดลงตามฤดูกาล ด้านกําไรสุทธิในไตรมาส 2/68 คาดว่า TOP จะมีกําไรพิเศษจาก CAP แต่จะถูกลดทอนลงบางส่วนจาก Stock loss หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลง โดยราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 2/68 qtd ปรับลดลง 10% QoQ
โดยยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2568 ของ TOP อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท ลดลง 6% แม้จะมีปัจจัยบวกจากการกลับมาดำเนินงานโครงการ SBM#2 ซึ่งสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าวไว้ในประมาณการแล้ว แต่ถูกลดทอนลงด้วยการปรับสมมติฐาน Paraxylene spread (PX-ULG95) ลงเหลือ 180 เหรียญต่อตัน (เดิม 200 เหรียญต่อตัน) สะท้อนการฟื้นตัวของธุรกิจที่ล่าช้ากว่าคาด
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือหุ้น TOP ให้ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม