#AWC #ทันหุ้น - AWC กำงบ 2 หมื่นล้านบาท ลุยเพิ่มพอร์ตโรงแรมแตะกว่า 7.3 พันห้อง ควบคู่ปรับปรุงโรงแรมเพิ่มรายได้ค่าห้องพักต่อคืน หนุนอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก เฉลี่ยทั้งปีเติบโต 10% YoYด้วยเป้าหมายอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ 75%เตรียมเปิด Jurassic World ภายในไตรมาส 2 นี้ ดันรายได้ค่าเช่าพื้นที่ดีด

นายชยานนท์  หอพัตราภรณ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (Chief Financial Officer) บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งยกระดับการบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเชนโรงแรม (Hotel Chain)  ชั้นนำระดับโลกเข้ามาบริหารจัดการพอร์ตโรงแรมของกลุ่มบริษัท โดยเบื้องต้นตั้งเป้าอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ทั้งปี 2568 เติบโตราว 10% YoY, อัตราการเข้าพัก (OCC) เฉลี่ยที่ 75%, และรายได้จากการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เติบโตในระดับ สองหลัก (Double Digit)อีกทั้งกลุ่มบริษัทมีแผนเปิดให้บริการสวนสนุก Jurassic World : The Experience ซึ่งอยู่ในโครงการเอเชียทีคภายในไตรมาส 2/2568 นี้

*งบลงทุน 2 หมื่นล้านบ.

พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทตั้งงบประมาณการลงทุนในปี 2568 ราว 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนห้องพักในกลุ่มธุรกิจโรงแรมขึ้นราว 20 – 22% YoY หรือราว 7.378 ห้องจาก 6,029 ห้องในปี 2567 ด้วยการเปิดให้บริการโรงแรม 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรม Melia Pattaya, Marriott Resort, Jomtien Beach, และ Fairmont Bangkok Sukhumvit

สำหรับความคืบหน้าโครงการ Jubilee Prestige Towerซึ่งประกอบด้วยอาคารสำนักงานสไตล์ใหม่และโรงแรมหรู ทางกลุ่มบริษัทได้นำเชนโรงแรม JW Marriott เข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการ เบื้องต้นคาดว่าโรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา (Swissotel Bangkok Ratchada) จะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งจะสร้างรายได้เข้ามาในทันที พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทจะทยอยปรับปรุงพื้นที่ส่วนต่างๆ ของโครงการอย่างต่อเนื่องตามแผนพัฒนาโครงการระยะ 4 ปี (2568 - 2571)

ขณะที่โรงแรม Pattaya Marriott Resort & Spa Jomtien Beach และโรงแรม Fairmont Bangkok Sukhumvit คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 (2H/68) โดยคาดว่าทั้ง 3 โรงแรมจะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทได้ทันที

*เดินหน้าแผน 5 ปี

ทั้งนี้กลุ่มบริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี นับจากปี 2568-ปี 2572 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจภายใต้แนวคิด “Building a Better Future” พร้อมตั้งเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินดำเนินงาน 2 เท่า สู่ระดับ 300,000 ล้านบาท พร้อมขยายห้องพักรวมสู่ 12,000 ห้อง

2.สร้างผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 1596 จากการเร่งผลักดันศักยภาพของทรัพย์สินที่อยู่ในช่วงดำเนินงานเริ่มต้น (Ramp Up) ให้เข้าสู่ระดับการดำเนินงานปกติ (BAL) หนุนให้ทรัพย์สิน BAU เติบโตขึ้น จากสัดส่วน 24% ในปี 2567 เพิ่มมากกว่า 70% ในปี 2572

และ 3. เดินหน้าการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องในฐานะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นน้ำที่มุ่งเน้นการสร้างจุดหมายปลายทางยั่งยืนระดับโลก ด้วยโครงการคุณภาพระดับแลนด์มาร์ก เสริมศักยภาพความร่วมมือกับพันธมิตรระลับโลก และยกระดับมาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ระดับสากล

แนะ “ซื้อ” เป้า 4.40 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรจะยังคงเติบโตในงวดไตรมาส 1/2568 หนุนจากรายได้ธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งขึ้นจากอัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องที่ดีขึ้น เบื้องต้นคาดการณ์กำไรปกติทั้งปี 2568 จะเติบโต 17% YoY แตะ 2.2 พันล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากรายได้ที่แข็งแกร่งจากธุรกิจโรงแรม (Re/Par ที่สูงขึ้น) ตามแผนกลยุทธ์การขยายตัวเพื่อเร่งการเติบโตในส่วนนี้ สำหรับธุรกิจ Commercial (25% ของรายได้, 46% ของ EBITDA) คาดว่าจะมีรายได้ที่คงที่และมีกำไรสูง เนื่องจากการดำเนินงานน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในปี 2567 แล้ว คงคำแนะนำ “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท