#ARROW #ทันหุ้น - ARROW แย้มอยู่ระหว่างเจรจาขยายธุรกิจในประเทศซาอุดีอาระเบีย และฟิลิปปินส์ พร้อมกางแผนขยายโรงงานรองรับตลาดต่างประเทศ พร้อมคุมต้นทุน ขยายตลาด หนุนผลกำไรตุนแบ็กล็อกแน่น 740 ล้านบาท พร้อมรับอานิสงส์โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ตั้งเป้ารายได้แตะ 1.3 พันล้านบาท

นายธานินทร์  ตันประวัติ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กเคลือบสังกะสีสำหรับร้อยสายไฟและข้อต่อต่างๆ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ในปี 2568 บริษัทคาดการณ์ผลประกอบการจะใกล้เคียงกับปี 2567 แม้ว่าปริมาณการขายและมูลค่างานก่อสร้างใหม่จะยังไม่ชัดเจน เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์อาจชะลอตัว แต่บริษัทคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อย่างเช่น การขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีส้ม

** เป้ารายได้ 1.3 พันล.

ทั้งนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 1.3 พันล้านบาท ทั้งนี้กลยุทธ์ในปี 2568 จะเน้นการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบเพื่อเพิ่มกำไร รวมถึงการปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่ไม่ทำกำไร และควบคุมค่าบริหารจัดการ อีกทั้งยังมีการตั้งเป้าหมายแก้ไขปัญหาเรื่องการตั้งสำรองที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา

ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ประมาณ 740 ล้านบาท และมีตัวแทนจำหน่าย (Dealer) กว่า 60 รายที่ยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเติบโตของ ARROW 50% จะมาจากตัวแทนจำหน่าย ส่วนที่เหลือจะเป็นการขายกับผู้รับเหมาโดยตรง ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะจากโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทกำลังเจรจาขยายธุรกิจในประเทศซาอุดีอาระเบีย และประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีแผนขยายโรงงานเพื่อรองรับการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงที่ดินในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 แต่ยังไม่ได้พึ่งพารายได้จากการส่งออกมากนัก

** ออเดอร์ก่อสร้างชะลอ

สำหรับผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 70% ของรายได้ ยังคงเป็นสินค้าหลักของบริษัท ขณะที่โครงการสนามบินอู่ตะเภาได้รับออเดอร์แล้วแต่การก่อสร้างยังชะลอตัว คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ได้ในช่วงปลายปี โดยรวมแล้วบริษัทมั่นใจว่าถึงแม้เศรษฐกิจจะยังมีความไม่แน่นอนแต่การควบคุมต้นทุน และการขยายตลาดจะช่วยสร้างผลกำไรที่ดีขึ้นและยังคงมองธุรกิจในทิศทางที่เป็นบวกในอนาคต

สำหรับผลประกอบการของปี 2567 โดยรวมถือว่าดีขึ้นจากปีก่อนหน้า แม้ว่าอัตราผลประกอบการจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง รวมถึงผลประกอบการบางส่วนจากบริษัทย่อยที่ไม่ทำกำไรตามที่คาดหวัง

โดยมีผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 112.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.34 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 101.64 ล้านบาท ซึ่งมีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 40.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.81 จากงวดเดียวกันของปีก่อน

** ผลิตสินค้าเต็มที่

ทั้งนี้เนื่องจากหลายปัจจัย ได้แก่ ต้นทุนวัตถุดิบเหล็กซึ่งเป็นต้นทุนหลักของบริษัท ปรับตัวลดลงในช่วงปลายปี 2566 และปัจจุบันอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งบริษัทมีนโยบายเพิ่มยอดขายเพื่อให้ผลิตสินค้าได้เต็มกำลังผลิต ส่วนกำไรขั้นต้น และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเหล็กมีราคาลดลง ขณะที่การปรับลงของราคาขายสินค้าและบริการจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตามบริษัทมีนโยบายปรับราคาให้เป็นไปตามราคาตลาดควบคู่กับการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่สามารถแข่งขันได้

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/