#PACO #ทันหุ้น - PACO จ้องขยายตลาดรถเพื่อการเกษตร ชี้แนวโน้มเติบโตดี พร้อมปักธงเจาะตลาดสหรัฐ รับอานิสงส์มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน ล่าสุดกวาดกำไรปี 2567 ที่ 147 ล้านบาท พุ่งขึ้น 101.5%

เล็งจ่ายปันผล 0.10 บาท

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า PACO ได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ ที่เตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีนสูงสุดถึง 60% ส่งผลให้ลูกค้าจากสหรัฐ ย้ายฐานการสั่งซื้อมายังไทยมากขึ้น ซึ่ง PACO ถือเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง และสามารถขยายตลาดอเมริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบัน PACO มีรายได้จากตลาดต่างประเทศถึง 67%โดยตลาดหลักคือ เอเชียและตะวันออกกลาง และกำลังเดินหน้ารุกตลาดสหรัฐ อย่างจริงจัง ด้วยแผนขยายกำลังการผลิต 20% ต่อปี เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอเมริกา

// ตลาดยังแข็งแกร่ง

แม้ว่าตลาดรถยนต์ใหม่จะชะลอตัว แต่ PACO ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทเน้นตลาด After Market (ตลาดอะไหล่ทดแทน) ซึ่งมีความต้องการต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยรถยนต์ต้องเปลี่ยนอะไหล่แอร์ทุก 10 ปี

นอกจากนี้ PACO ยังขยายตลาดไปยังยานพาหนะเฉพาะทางที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เช่น รถเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามความต้องการของอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ แม้จะมีเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้ามาแทนที่รถยนต์สันดาปมากขึ้น แต่ PACO ยังคงมีโอกาสเติบโต เนื่องจากรถ EV ยังต้องใช้ระบบปรับอากาศเช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีอุปกรณ์ระบายความร้อนแบตเตอรี เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม EV ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการขยายตลาดและรักษาการเติบโตในระยะยาว

// พลังงานสะอาด

นอกเหนือจากการขยายตลาดแล้ว PACO ยังให้ความสำคัญกับ พลังงานสะอาดและการลดคาร์บอน โดยได้ติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อลดต้นทุนพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาเกี่ยวกับ Carbon Credit เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างโอกาสสำหรับการส่งออกไปยังประเทศที่มีกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวด

อนึ่ง ผลประกอบการปี 2567 กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 101.5% จาก 73.2 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 147.5 ล้านบาท แม้ว่ารายได้รวมจะทรงตัวอยู่ที่ 1,043.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจาก 1,054.8 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า

โดยการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นเป็นผลมาจาก การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ การปรับโครงสร้างต้นทุนการผลิต ให้เหมาะสม โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงจาก 56% ของรายได้ในปี 2566 เหลือ 50% ในปี 2567

ขณะเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 14.6% ในปี 2566 เป็น 24.0% ในปี 2567สะท้อนถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง

// ขยายกำลังผลิต

ทั้งนี้ ด้วยแผนขยายกำลังการผลิต 20% ต่อปี และกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ PACO พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ด้วยเป้าหมายรายได้ 1,150 ล้านบาทในปี 2568และการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลที่ 0.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67.80% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย โดยการให้สิทธิรับเงินปันผลดังกล่าวอรยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/