BCPG มุมมองโบรกหลังแจ้งงบ

#BCPG #ทันหุ้น - บริษัท บีซีพีจี จำกัด(มหาชน) หรือ BCPG แจ้งผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.79% ต่ำกว่าคาดการณ์ของโบรกเกอร์ อย่างไรก็ตามโบรกเกอร์ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 ส่วนใหญ่แนะนำ “ซื้อ” โดยมีบล.เอเซียพลัสให้คำแนะนำ “ถือ” โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสม BCPG ในช่วง 7.80-8.70 บาท โบรกเกอร์มีมุมมองดังนี้

บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ระบุว่า กำไรปกติไตรมาส 4/67 เติบโตสูงมาก +94%YoY ตามคาด กำไรปกติไตรมาส 4/67 227 ลบ. ลดลง -50%QoQ ตามฤดูกาล แต่เติบโตสูงมาก +94%YoY ตามคาด จากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาก แต่กำไรสุทธิต่ำคาดจากการตั้งสำรองลูกหนี้ค่าไฟฟ้า ส่งผลให้กำไรปกติทั้งปี FY67 เติบโตสูง +35%YoY กำไรสุทธิ +65%YoY จากการกำไรพิเศษจากการขาย Solar ที่ญี่ปุ่น BCPG ประกาศจ่ายเงินปันผลทั้งปีเพิ่มเป็น 0.28 บ.DIP 4.0%

คาดกำไรไตรมาส 1/68 ยังแข็งแกร่งตามปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นของ Hydro ในลาว และส่วนแบ่งกำไรก๊าชในสหรัฐฯ

คงคำแนะนำ "ซื้อ" จาก Valuations ยังน่าสนใจด้วย P/B 0.7x และกำไรปกติแข็งแกร่งหนุนโดยโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ

บล.กรุงศรีระบุว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4/67 ต่ำกว่าคาดแต่แนวโน้มกำไรปี 2568 เติบโตสูง กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ของ BCPG ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ เนื่องจากรายได้ อัตรากำไรขั้นต้น และส่วนแบ่งกำไรที่ต่ำกว่าเราคาด รวมถึงค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าคาดและรายการพิเศษ one-off items ต่างๆ เรายังคงประมาณการกำไรปี 2568-69 โดยรวมผลส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ และค่าบำรุงรักษาที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว ในขณะเดียวกันเราได้ใช้ประมาณการอย่างระมัดระวังสำหรับมูลค่า 50% สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ไต้หวัน และ Nabas-2 และ เนื่องจาก COD ล่าช้า คงคำแนะนำ”ซื้อ” (ราคาเหมาะสม 7.80 บาท)

บล.เคจีไอระบุว่ากำไรหลักไตรมาส 4/67 ของ BCPG อยู่ที่ 228 ล้านบาท (-50% QoQ แต่ +459%YoY) เป็นไปตามคาด แต่กำไรสุทธิที่ 164 ล้านบาทต่ำกว่าทุกประมาณการ เนื่องจากมีการด้อยค่าที่ไม่ได้คาดไว้ของลูกหนี้ในสปป.ลาวมูลค่า 182 ล้านบาท

กำไรหลักที่เพิ่มขึ้น YoY มาจากกำลังการผลิตในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และต้นทุนดอกเบี้ยลดลง แต่กำไรลดลง QoQ เป็นเพราะปัจจัยฤดูกาลและโครงการโรงไฟฟ้าก๊าชชะลอตัว

เมื่อมองไปข้างหน้า กำไรหลักปี 2568F น่าจะเพิ่มขึ้น 35% YoY นำโดยสินทรัพย์ในสหรัฐฯ, โครงการ Monsoon wind (2H68) และโครงการโซลาร์ในได้หวัน (100MWe) ทั้งนี้ เรายืนยันคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 8.00 บาท

บล.กสิกรไทยระบุว่า BCPG มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปี 2568หากมองในระยะสั้น เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 1/2568 จะลดลง YoY จากราคาขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยที่ลดลง เนื่องจากสัญญา adder เฟสสุดท้าย (53 MW) หมดอายุลงในครึ่งแรกของปี 2567 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรปกติจะแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) กำไรของโรงไฟฟ้าก๊าซธธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากรายได้ความพร้อมจ่าย (Capacity Revenue) มีแนวโน้มจะแดะระดับสูงสุดใหม่ตั้งแต่กลางปี 2568 ท่ามกลางสภาวะอุปทานที่ดึงด้ว 2) การเริ่มทยอยเปิดดำเนินการของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon (290 MWe ใน สปป.ลาว)

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 8.20 บาท BCPG ยังคงมีมูลค่าหุ้นน่าสนใจโดยซื้อขายด้วย PER ปี 2568 ที่ 13 เท่า หนุนโดยการเติบโตของกำไรปกติปี 2568 ที่คาดเติบโต 43%

บล.เอเซียพลัสระบุว่า Outlook ปี 2568 คาดกำไรปกติเติบโต 18.4%yoy มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท จากการรับรู้โครงการใหม่ รวม 369 MWe ที่ทยอย COD ขณะที่ Outlook ไตรมาส 1/68 คาดกำไรปกติฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ จากผลประกอบการในสหรัฐฯ ที่คาดฟื้นตัว พร้อมกลุ่ม solar ที่คาดค่าแสงดีขึ้น แม้กลุ่มโรงไฟฟ้าน้ำ จะเข้าสู่ low season ก็ตาม

คงประมาณการและ FV ปี 2568 ที่ 8.7 บาท/หุ้น คงน้ำหนัก Neutral รับผลบวกจากคาดผลประกอบการงวด1Q68 ที่คาดฟื้นตัว QoQ และภาพใหญ่ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้ายังเห็นการเติบโตของทำไรต่อเนื่อง YoY จากการเริ่มทยอยรับรู้โครงการใหม่ๆ

จ่ายปันผล 2H67 ที่ 0.18 บาท/หุ้น คิดเป็น dividend yield 2H67 ที่ 2.6% (ทั้งปีจ่าย 0.28 บาท/หุ้น คิดเป็น dividend yield 2567 ที่ 4.0%)