#GPSC #ทันหุ้น-หุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC คาดว่าจะประกาศงบไตรมาส 4/67 ในวันพรุ่งนี้(17 ก.พ.68) ซึ่งโบรกเกอร์ประเมินกำไรจะอยู่ที่ประมาณกว่า 900 ล้านบาท พร้อมทั้งแนะนำซื้อ
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดกำไรไตรมาส 4/67 ของ GPSC อยู่ที่ประมาณ 973 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหรือ YoY และเพิ่มขึ้น 26.4% จากไตรมาสก่อน หรือ QoQ ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้มีการปรับประมารการให้ conservative มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านนโยบายค่าไฟที่จะถูกและได้มีการปรับคาดการณ์กำไรปี 2568 ลง 4.5% รวมถึงได้ปรับราคาพื้นฐานลงมาอยู่ที่ 46 บาท จากเดิมที่ 63 บาท เนื่องจากระยะยาวมองว่าการปรับขึ้นค่าไฟจะมีโอกาสน้อย มองว่าระยะยาวยังแนะนำซื้อ เนื่องจากมี upside พอสมควร แต่ระยะสั้นมองว่า GULF จะน่าสนใจมากกว่าตามแนวโน้มผลประกอบการที่ยังเติบโต
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คาดว่า GPSC จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% YoY จาก margin โรงไฟฟ้าได้ประโยชน์ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง และเพิ่มขึ้น 25% QoQ จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง ขณะที่กำไรปกติคาดประคองตัว เพราะการปรับตัวลงของต้นทุนก๊าซเงินปันผลรับเพิ่มขึ้น การผลิตที่ราบรื่นของ XPCL จะช่วยชดเชยผลกระทบต้นทุนถ่านหิน ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อุปสงค์จากลูกค้าอุตสาหกรรมหรือ IU ที่ชะลอตัวได้
โดยได้ปรับลดประมาณการปี 2568 ลง 23% เป็น 4.5 พันล้านบาท โดยปรับลดสมมติฐานค่าไฟให้สะท้อนโอกาสการแทรกแซงค่าไฟของภาครัฐ ยังคงแนะนำซื้อให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 39 บาท มองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนข่าวลบไปมากแล้ว และมองว่ากำไรปี 2568 ยังคงเติบโตจากปีก่อน
บล.กรุงศรี คาดว่า GPSC จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY แต่ลดลง 25% QoQ และมีกำไรหลักอยู่ที่ 1 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 8.5% YoY และทรงตัว QoQ พร้อมมองว่าแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2568จะยังคงปรับตัวดีขึ้น จากปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจาก Avaada, CFXD และ XPCL อย่างไรก็ตามได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567-2569 ลง 5%, 6% และ 10% ตามลำดับ หลังจากปรับประมาณการรายได้ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่าย SG&A รวมถึงการปรับตามสมมติฐานค่า Ft และต้นทุนก๊าซใหม่ จึงได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 34 บาท จากเดิมที่ 38 บาท แต่ยังคงแนะนำซื้อ
บล.กสิกรไทย แนะนำซื้อหุ้น GPSC ให้ราคาเป้าหมายที่ 51.50 บาท แต่อยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการและสมมติฐาน โดยมีความเสี่ยงขาลงจากนโยบายค่าไฟล่าสุด โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/67อยู่ที่ 898 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% YoY และเพิ่มขึ้น 17% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรของ SPPที่แข็งแกร่งขึ้น และผลดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ขณะเดียวกันได้คาดการณ์กำไรปกติทั้งปี 2567 อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%
นอกจากนี้คาดแนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 900 ล้านบาทถึง 1 พันล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น YoY เพราะได้แรงหนุนจากอัตราค่าไฟฟ้าที่ทรงตัว ต้นทุนก๊าซที่ลดลง รวมถึงส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากโครงการ Changfang และ Xidao (CFXD) หลังดำเนินการเชิงพาณิชย์รูปแบบปลายปี 2567
ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม