เคาะ ITC

#ทันหุ้น-ITC รายงานกำไรสุทธิ 4Q/24 เท่ากับ 790.4 ล้านบาท -19%QoQ, +3.1%YoY ต่ำกว่าประมาณการจาก Bloomberg ราว 11% โดยได้รับผลกระทบจาก 1. ยอดขายที่ชะลอตัวลงเล็กน้อย YoY จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงในยุโรป (14% ของรายได้รวม) และอเมริกา (53% ของรายได้รวม) ลดลง แต่ได้ยอดขายในเอเชียที่พยุงไว้ โดยเฉพาะสินค้า Premium ที่มีสัดส่วนการขายสูงขึ้น 2. GPM ที่ 25.5% (เป้าบริษัท 26-28%) ดีขึ้นจากปีก่อนที่ 22% แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 29.8%จากต้นทุนวัตถุดิบหลักที่ปรับเพิ่มขึ้น และการกลับรายการสำรองสินค้าคงคลังที่ลดลง นอกจากนี้ยังมี SG&A/Sales เพิ่มขึ้นเป็น 11.3% (3Q/24 = 9.3%, 4Q/23 = 6.8%) ตามการพัฒนาโปรเจ็กต์ทรานส์ฟอร์เมชั่นธุรกิจ กิจกรรมทางการตลาด ค่าขนส่งสินค้าที่สูงขึ้น

สำหรับภาพทั้งปี มีกำไรสุทธิ 3.6 พันล้านบาท +57.7% YoY โดยมี GPM ที่ระดับ 27.7% +8.3% ROE สิ้นงวดที่ 15.22% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 9.98% และมี IBD/E = 0 สะท้อนความเป็น Debt-free company ขณะที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท คิดเป็น Div. Yield ที่ 4.4% ขึ้น XD 26 ก.พ.

ด้านแผนธุรกิจในปี 2025 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ขายเติบโต 13-15% ราว 2.0 หมื่นล้านบาท, การเติบโตของ GPM 10-12% ราว 5.4-5.5 พันล้านบาท คิดเป็น GPM ที่ 26.5-27.0% ส่วน SG&A/Sales ไม่เกิน 10% ด้านงบลงทุนที่ 1.5 พันล้านบาท และคงนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และการเติบโตของจำนวนสัตว์เลี้ยงทั่วโลกที่ชะลอตัว บริษัทจึงมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้า Premium มากขึ้น ที่ยังมี Demand อยู่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการปรับขึ้นของสินค้า

ในเชิง Sentiment ตลาดรับรู้ปัจจัยลบเรื่องแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น กระทบต่อ GPM, กำลังซื้อที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ-ยุโรป และรอความชัดเจนจ่ายอัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น (GMT) เป็น 15% (ปี 24 คิดเป็น tax rate ที่ 4%) ที่คลาดคาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐในรูปแบบ Tax refund เพื่อยังรักษาความสามารถในการแข่งขันทางการค้า

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นแนวโน้มการเรียงตัวหรือการแกว่งตัวแท่งเทียนไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าแท่งเทียนก่อนหน้า และปรับตัวยืน SMA5 วัน ได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นตามกัน แนวต้านจุดทดสอบจุดสูงแท่งเทียนรอบก่อนหน้า 17.50/18.20 ตามลำดับ ปรับตัวเน้นยืนแนวรับ SMA 16.60 ไม่ควรต่ำกว่าเพื่อคงขาขึ้น

คำแนะนำ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 17.50/18.20
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 16.60/16.00 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา