#BBIK #ทันหุ้น – การซื้อขายหุ้น BBIK วันที่ 5 ก.พ. ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อน ณ เวลา 15.18 น. ราคาอยู่ที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+2.99%) มูลค่าการซื้อขาย 41.88 ล้านบาท โบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์วันที่ 5 ก.พ. คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 จะออกมามีกำไรแข็งแกร่ง โบรกเกอร์ 8 ราย ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมในช่วง 44.00-53.50 บาท ราคากล่าง (Median) 50.00 บาท

.

บล.เมย์แบงก์ : คาดกำไรไตรมาส 4/67 และปี 68 โตแกร่ง คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 50.10 บาท

บล.เมย์แบงก์คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BBIK เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/67(+24% YoY, +13% QoQ) และในปี 68 (+26% YoY) โดยคาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 4/67 จะทำจุดสูงสุดใหม่ จากการฟื้นตัวของอุปสงค์และช่วงไฮชีชันของการส่งมอบโครงการในไตรมาสสุดท้ายของปี ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 50.10 บาท (WACC 10.0%, TG 3.0%) ปัจจุบัน BBIK ซื้อขายที่อัตราส่วน PEG 0.85 เท่า (อิง P/E ปี 67 ที่ 22 เท่าและอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของกำไรหลัก (CAGR) ที่ 26% ในช่วงปี 67-69 )ทั้งนี้ การชนะประมูลโครงการธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นขึ้น (Re-rating Catalyst) ในไตรมาส 3/68

.

บล.กสิกรไทย : คาดกำไรไตรมาส 4/67 ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง

บล.กสิกรไทยคาดว่า BBIK จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 100 ลบ. เพิ่มขึ้น 15% QoQ และ 27% YoY ด้วยปัจจัยหนุนหลักจากรายได้ที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และอัตรากำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้น BBIK รายงานรายได้ไตรมาส 4/2567 ที่ 407 ลบ. เพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 10% YoY

คาด NPM เพิ่มขึ้นเป็น 24.7% ในไตรมาส 4/2567 เราคาดว่า NPM ไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 24.7%เพิ่มขึ้นจาก 22.5% ในไตรมาส 3/2567และ 20.9% ในไตรมาส 4/2566 แรงขับเคลื่อนการเติบโตในเชิง QoQ คาดจะมาจากการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้นจากรายได้ที่มากขึ้นและการปรับตัวเลขทางบัญชี ขณะที่ปัจจัยหนุนการเติบโตในเชิง YoY คาดจะมาจากอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (minority interest) ที่ลดลงจาก Innoviz

คาดยอด backlog ลดลงเล็กน้อยในไตรมาส 4/2567 แต่คาดจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 1/2568 เราคาดว่ายอด backlog ไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 810 ลบ. ลดลงจากที่ 871 ลบ. ในไตรมาส 3/2567 อยู่ 7%เนื่องจากเราคาดว่า BBIK จะรายงานรายได้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 407 ลบ. ในไตรมาส 4/2567ขณะที่เราคาดว่ายอด backlog จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกปืนี้

แนวโน้มไตรมาส 1/2568 แข็งแกร่ง เราคาดว่า BBIK จะสามารถรักษาโมเมนตั้มเชิงบวกจากครึ่งหลังปี 2567 ต่อไปจนถึงครึ่งแรกของปีนี้ได้หนุนจากยอด backlog ที่แข็งแกร่งที่ 810ลบ.

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 46.67 บาทเราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/2567 ที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น อิงจากคาดการณ์ของเรา ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2567 และ 2568 ที่ 22.2 เท่า และ 16.2 เท่า

.

บล.ทิสโก้ : ผลประกอบการในไตรมาส 4/67 แข็งแกร่ง; ผู้บริหารยืนยันเป้าหมายปี 2568 ที่แข็งแกร่ง

เราคาดการณ์กำไรในไตรมาส 4/67 ของ BBIK ที่ 102 ล้านบาท เติบโต 16% QoQ และ 32% YoY โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ ( 4Q เป็นช่วง high season ของการส่งมอบโครงการ) กำไรสุทธิควรได้รับอิทธิพลจากการใช้ประโยชน์จากพนักงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/67

ไตรมาส 4/67 จะได้รับแรงหนุนจากรายได้และการใช้ประโยชน์จากการดำเนินงาน

BBIK ควรเห็นการปรับปรุงผลการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้น QoQ และ YoY ในไตรมาส 4/67 จากทุกกลุ่มธุรกิจ เราคาดการณ์รายได้เติบโต 8% QoQ และ 13% YoY รายได้จากโครงการภาครัฐ (แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ลงนามในไตรมาส 3/67) ควรเริ่มเห็นผล ในส่วนกำไรสุทธิ เราประมาณการอัตรากำไรสุทธิขยายตัวเป็น 24% ในไตรมาส 4/67 จาก 23% ในไตรมาส 3/67 และ 21% ในไตรมาส 4/66 โดยได้แรงหนุนจากประสิทธิภาพของพนักงานผ่านการประหยัดต่อขนาด (ชดเชยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารตามฤดูกาล) Backlog ในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง โดยได้แรงหนุนจากการปล่อยโครงการภาครัฐและการใช้จ่ายด้านไอทีอย่างต่อเนื่องในภาคธนาคาร อย่างไรก็ตาม Backlog รวมอาจลดลงเนื่องจากการอนุมัติงบประมาณที่ช้าลงตามฤดูกาลในช่วงปลายปีและการบันทึก Backlog ของ Orbit ในไตรมาสก่อน (เร็วกว่าปกติ)

ยืนยันเป้าหมายปี 2568 ที่แข็งแกร่ง

ผู้บริหารยืนยันเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งที่ 20-30% YoY ในปีนี้ และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากภาครัฐให้ถึง 10-15% ของรายได้รวมในปี 2568 (เทียบกับระดับเลขหลักเดียวสูงในปี 2567) เราเชื่อว่าการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของ BBIK ในการขยายในภาครัฐจะเป็นเครื่องยนต์การเติบโตใหม่ที่เสริมความยั่งยืนของการเติบโตในระยะยาว สำหรับไตรมาส 1/68 เราคาดว่า BBIK จะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง การเพิ่ม Backlog ควรมาจากการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงการภาครัฐใหม่ที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัล (ประกาศในมกราคม 2568) การเติบโตของรายได้ควรยังคงแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ Backlog ในขณะที่การใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานและสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI ควรช่วยเพิ่มกำไรสุทธิ

บล.ทิสโก้คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BBIK โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 52.25 บาท

บล.ทิสโก้ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BBIK และชอบมากกว่า BE8 ด้วยหลายเหตุผล : 1) BBIK ดำเนินธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงกว่า 2) BBIK มีการใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานที่สูงกว่า และ 3) การประเมินมูลค่าของ BBIK น่าสนใจกว่า ราคาเป้าหมายของเราที่ 52.25 บาท สำหรับ BBIK มาจาก P/E สิ้นปี 2568 ที่ 27.9 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี) ความเสี่ยงด้าน downside ที่สำคัญ : ความล่าช้าในการปล่อยงบประมาณ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ การแข่งขันที่รุนแรง และความเสี่ยงด้านชื่อเสียง

.

บล.พาย : คาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ กลับมามี Upside อีกครั้ง

บล.พายปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" หลังจากราคา ณ ปัจจุบัน มี upside อีกครั้ง เราคาดว่า BBIK ทำกำไรงวดไตรมาส 4/67 ที่ 106 ล้านบาท (+31%YoY, +20%QoQ) ปรับตัวขึ้นตามปัจจัยทางฤดูกาลกำไรของครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรก จากทั้งการประหยัดต่อขนาดและสัดส่วนการรับรู้กำไรในหน่วยธุรกิจที่มีกำไรดีกว่า ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ทรงตัว เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในปี 2568 เนื่องจาก 1) การเร่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ภาครัฐ 2)การทำโปรเจ็ค Virtual Bank 3) การซื้อ Innoviz เพิ่มเติม ไตรมาสถัดไปคาดว่า กำไรอ่อนตัวลงเทียบไตรมาสก่อนเนื่องจากครึ่งปีแรกเป็นช่วงเข้าประมูลงาน ณ ราคาปัจจุบันเทียบเท่ากับค่า P/E ปี 2569 ที่ 15 เท่า หรือคิดเป็นที่ PEG 0.8 เท่า เทียบกับการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ (CAGR 18%)

.

บล.บียอนด์ : ทำสถิติใหม่! ไตรมาส 4/67 ทะยานสู่จุดสูงสุด กำไรโต 37%เร่งส่งมอบงานท้ายปี

บล.บียอนด์คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 106 ล้านบาท (+37% y-y, +21% q-q) โดยมีปัจจัยหนุนหลักจาก การส่งมอบงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี แม้ว่า Backlogs ณ สิ้นไตรมาส 3/67 จะลดลงอยู่ที่ 871 ล้านบาท จาก 905 ล้านบาท ในปี 2567แต่การที่เร่งส่งมอบงานช่วยให้รายได้ในไตรมาสนี้เติบโตขึ้น เราคาดรายได้ในไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 417 ล้านบาท (+12% y-y, +7% q-q) ซึ่งการเติบของรายได้ยังคงมาจากงานพัฒนาระบบสำหรับองค์กร โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชน ซึ่งกลุ่มหลักที่มีการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าการเงินและธนาคาร ประกัน เป็นหลัก

GPM ไตรมาส 4/67 ทะลุ 51% หนุนกำไรแข็งแกร่ง

เราคาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 4/67 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 51.3% จาก 46.9% ในไตรมาส 3/67 จากการดำเนินงานที่เต็มประสิทธิภาพ และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษในช่วงไตรมาส 4/67 ช่วยสนับสนุนผลประกอบการโดยรวมให้แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากออร์บิทไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 20 ล้านบาท

สะดุดครึ่งปีแรก แต่ยังเห็นแนวโน้มขาขึ้น

บล.บียอนด์ยังคงสมมติฐานกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2567 จะอยู่ที่ 306 ล้านบาทโดยการเติบโตของกำไรยังคงได้รับแรงหนุนจากเข้าร่วมประมูลงานจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น โครงการที่เข้าร่วมประมูลเน้นไปที่ โซลูชันด้าน Digital Transformation, ระบบ Al Solutions และโครงการพัฒนาด้านไอทีของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ จะเป็นกลยุทธ์หลักในการเติบโตในระยะยาว

เดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง

บล.บียอนด์คาดกำไรสุทธิของ BBIK จะเติบโตประมาณ 21% ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของธุรกิจ Digital Excellence จากการชนะงานประมูลโครงการพัฒนาระบบชำระเงินดิจิทัล (Payment Platform) มูลค่า 90 ล้านบาท เป็นโครงการสำคัญของภาครัฐที่จะต้องสามารถรองรับผู้ลงทะเบียนกว่า 30 ล้านคนโครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2568และจะเข้าสู่ช่วงทดสอบระบบอีก 1 เดือน ก่อนเปิดใช้งานเต็มรูปแบบ ซึ่งรายได้จากโครงการนี้จะถูกบันทึกในช่วงครึ่งปีแรก 2568 จะช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรก

บล.บียอนด์ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" แนวโน้มไตรมาส 4/67 เติบโตแข็งแกร่ง

เราปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จาก "ถือ" ที่ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท ณ สิ้นปี 2568 อ้างอิง PER ปี 2568 ที่ 24 เท่า ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/67 เราคาดว่า BBIK จะได้รับแรงแรงหนุนจากการขยายตัวของตลาดเทคโนโลยีดิจิทัลและการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว ในขณะที่ภาพรวม Backlogs ทั้งในส่วนของ BBIK และ JV จะปรับตัวลดลงจากการเร่งส่งมอบงานในช่วงไตรมาส 4/67