นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทยังคงเน้นสร้างความแตกต่าง และเป็นผู้นำด้านทำเล มุ่งเน้นพัฒนาเชิงคุณภาพ สร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าเพื่อลูกค้าผู้อยู่อาศัย เช่น ความร่วมมือกับพันธมิตรให้บริการด้านสุขภาพ เพื่อสร้างผลประกอบการให้มีกำไรมั่นคงและยั่งยืนมากกว่าการเน้นเฉพาะยอดขาย
@เพิ่มโครงการ
ปัจจุบันบริษัทมี 6 โครงการที่อยู่อาศัยของมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และกลางปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 3 โครงการ มูลค่ารวมโดยประมาณอีก 1 หมื่นล้านบาท ได้แก่ บ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวทำเลชานเมืองของกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท, คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ หัวหิน มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม ที่ภูเก็ต มูลค่า 2.3-3 พันล้านบาท
โดยเชื่อว่า ยอดขายจะอยู่ในระดับน่าพอใจเพราะนอกเหนือจากคุณภาพที่จูงใจกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจริงแล้ว ทำเลในหลายโครงการที่อยู่เมืองท่องเที่ยวยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยด้วย ดังนั้นการที่เศรษฐกิจประเทศยังอาจไม่ได้ขยายตัวแรง การปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินเข้มงวด และภาคครัวเรือนมีหนี้สูง จึงไม่กระทบกับแผนการเติบโตของบริษัท
@ยอดขายดี
สอดคล้องกับโครงการที่อยู่ระหว่างการขายยังมีการตอบรับดี ข้อมูล ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 ได้แก่ เวหา หัวหิน มียอดจองแล้ว 65%, รมย์ คอนแวนต์ มียอดจอง 62%, วี อารีย์ มียอดจอง 33% และ นิว ดิสทริค อาร์ 9 มียอดจองสูงถึง 97% การตอบรับที่ดีในโครงการต่างๆ สืบเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้บริษัทมั่นใจจะสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทมียอดขายรอโอนรับรู้ (Backlog) มูลค่าประมาณ 10,899 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ ตั้งแต่ปี 2567- 2569 ซึ่งสำหรับเฉพาะปีนี้ การรับรู้ส่วนใหญ่มาจากโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 ราว 6.8 พันล้านบาท และ เวหา หัวหิน 2.5 พันล้านบาท
ส่วน วี อารีย์ ที่มีมูลค่าโครงการ 491 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ไปแล้วในไตรมาส 4/2567 กว่า 8.9 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ตลอดทั้งปี 2568 และ รมย์ คอนแวนต์ มูลค่าโครงการ 4.15 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2569
@เป้าเติบโต
จากการรับรู้รายได้ต่อเนื่องบริษัทจึงประเมินรายได้ปี 2568 จะเท่ากับ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปี 2567 ที่คาดทำได้ 2.5 พันล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 ทำได้แล้ว 2 พันล้านบาท พร้อมกับตั้งงบลงทุน 3 พันล้านบาท สำหรับจัดหาที่ดินพัฒนาโครงการเพิ่มเติม
ขณะที่ในปี 2569 ยอมรับว่ามีโอกาสที่ฐานรายได้จะไม่เติบโตสูงเทียบเท่าปีนี้ แต่บริษัทจะเพิ่มความสามารถทำกำไรให้สูงขึ้นทดแทนภายการดำเนินงานโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล
บริษัทได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนเพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) ตามกลยุทธ์และเป้าหมายที่ชัดเจนภายใต้กรอบนโยบายที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) และยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจอีกมากมาย เป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในหุ้นของกองทุนด้านความยั่งยืน (ThaiESG)
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม