#SABUY #ทันหุ้น – เปิดใจ  “อิทธิชัย  พูลวรลักษณ์” ซีอีโอใหม่ WSOL หรือ SABUY กับการฟื้น SABUY รับด่านแรกต้องขอเลื่อนหนี้-ขอลดดอกเบี้ย ชูเป็นทางรอดทางเดียว โชว์โมเดลต้องนำเงินที่ใส่มา 400 ล้านบาท ปั้นบริษัทให้เติบโตก่อน มิเช่นนั้นต้องเข้าแผนฟื้นฟู ฉายโมเดลพลิกฟื้นบริษัท ตั้งเป้าสำเร็จภายใน 2 ปีข้างหน้า

สถานการณ์ของ “บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)” หรือ SABUY กำลังอยู่ในสถานการณ์บนปากเหว หลังถูกผู้ถือหุ้นกู้ SABUY258A เรียกบริษัทให้ชำระหนี้เงินต้น 1.3 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 6.65% ภายใน 25 ธันวาคม หลังจากไม่ได้ชำระดอกเบี้ยเมื่อ 18 พฤศจิกายน ท่ามกลางที่กระแสเงินสดของ SABUY แค่หลักร้อยล้านบาทไม่เพียงพอต่อการจ่ายหนี้

หากบริษัทไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้ หรือ ขอเลื่อนไถ่ถอนหุ้นกู้ นั้นหมายถึงโอกาสที่จะเกิดการ ครอสดีฟอลต์หรือ “การผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่” หุ้นกู้ 3 รุ่นรวมทั้งหมด 3.79 พันล้านบาท หนี้สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้การค้า มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 6-7 พันล้านบาท ก็จะล่มทั้งหมด

ท่ามกลางการเข้ามารับหน้าเสื่อบริหารธุรกิจของ “อิทธิชัย พูลวรลักษณ์” นักธุรกิจหนุ่มชื่อดังวัย 32 ปี ที่ต้องเร่งแก้ปัญหา ในบทบาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เมื่อช่วงตุลาคม 2567

@ เสี่ยงแต่ขอลอง

“อิทธิชัย พูลวรลักษณ์” นับเป็นนักธุรกิจตระกูลดัง สร้างชื่อตั้งแต่วัยรุ่นด้วยการก่อตั้ง บริษัท ลอคค์ บอกซ์ จำกัด ผู้ให้บริการตู้ล็อกเกอร์รับฝากสัมภาระอัตโนมัติ และเคยประสบความสำเร็จกับงานที่ท้าทาย

คือการเปิดโรงแรมบนเกาะสมุย ช่วงโควิดที่ต่างชาติเข้าไทยไม่ได้ ซึ่งขณะนั้นได้มีการปรับแผนเน้นไปกลุ่มประชาชนในเกาะสมุยให้มาใช้บริการในโรงแรมจนผ่านมาได้

“อิทธิชัย” ยอมรับกับ “ทันหุ้น” ว่า การเข้ามาแก้ไขปัญหาใน SABUY ครั้งนี้มีความเสี่ยงต่อชื่อเสียง และกลุ่มครอบครัวก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่ก็ต้องการใช้ความสามารถในการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาได้ใส่เงินเข้ามา 400 ล้านบาท เพื่อที่จะทำให้ SABUY มีสภาพคล่องในการจ่ายเงินพนักงานให้ทำงานได้

@ แก้ปัญหาหุ้นกู้

สำหรับปัญหาแรกที่ต้องได้รับการแก้ไขคือเรื่องหนี้สินของ SABUY ที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 6-7 พันล้านบาท โดยเฉพาะหนี้หุ้นกู้ 3.79 พันล้านบาท  ซึ่ง SABUY จะต้องขอเลื่อนวันไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งหมดออกไป 3 ปี พร้อมกับปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงแรกเหลือ 2% ก่อนค่อยๆ ขยับขึ้นปลายปี 2026 (2569)

“อิทธิชัย” ยกแบบจำลองโมเดลขึ้นมาโชว์ พร้อมยอมรับว่า SABUY ไม่มีเงินพอที่จะจ่ายหุ้นกู้ได้ ณ ขณะนี้ และหากไม่ลดดอกเบี้ยเหลือ 2% บริษัทก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยไตรมาสละ 100 กว่าล้านบาท ก็ทำให้ธุรกิจไปไม่รอดด้วยเช่นกัน เพราะดอกเบี้ยกินหมด แต่หากลดดอกเบี้ยบริษัทก็จะจ่ายดอกเบี้ยไตรมาสละ 40-80 ล้านบาท นั้นพอเป็นทางออกได้

เนื่องจากบริษัทต้องการนำเงินทุนที่ใส่ไป 400 ล้านบาท เร่งพัฒนาธุรกิจให้เติบโต และหาโซลูชันในการขายธุรกิจเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้หนี้ในอนาคต ซึ่งการเดินหน้าของ SABUY ก็เหมือนกับการบินไทย หากต้องการให้ธุรกิจรอดก็ต้องลดหนี้

@ต้องปั้นก่อนขาย

“อิทธิชัย” ยอมรับว่า ด้วยการที่สินทรัพย์ของคือธุรกิจ ในยามที่บริษัทลำบาก หากขายขณะนี้ก็จะไม่ได้ราคา ดังนั้นทางออกจำเป็นที่จะต้องปั้นให้ธุรกิจเติบโตและขายบางส่วนในอนาคต เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ ซึ่งจากการจำลองโมเดลบริษัทตั้งเป้าว่าปลายปี 2570 จะสามารถขายสินทรัพย์ชำระคืนหุ้นกู้ได้ พร้อมๆ กับการอยู่รอดของบริษัท โดยระหว่างนี้ปี 2569 บริษัทจำเป็นที่จะต้องพัฒนาธุรกิจเพื่อให้มีการแปลงวอแรนท์ รับเงินเข้ามาอีก 584 ล้านบาทให้ได้

แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นกู้จะให้โอกาสหรือไม่ หากไม่ได้บริษัทก็มีโอกาสผิดนัด ต้องเข้าแผนฟื้นฟู ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้จะเสียโอกาสมากกว่า โดยบริษัทกำลังเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้รอบใหม่และอธิบายให้เข้าใจ พร้อมขอโอกาสทำงาน

@เป้าสำเร็จใน 2 ปีข้างหน้า

นายอิทธิชัย ระบุว่า บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงปรับทีมผู้บริหารชุดใหม่ และ การเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) และชื่อหุ้นเป็น “WSOL” เพื่อพร้อมดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างเต็มความสามารถ จึงอยากขอโอกาสให้ทีมผู้บริหาร และ ทีมงานชุดใหม่ได้ร่วมผลักดันบริษัทให้เติบโตในระยะยาว

เนื่องจากส่วนตัวเห็นโอกาสจากการที่ SABUY มีจุด Touch Point จำนวนมากหากใส่ใจในรายละเอียดธุรกิจมากขึ้นก็จะเติบโตได้ ซึ่งการดำเนินธุรกิจนั้นจะมีการผนึกกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง สร้างการเติบโตของรายได้ ผ่านการ

ทั้งนี้ SABUY หรือ WSOL ให้บริการโซลูชันใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มบริการ B2B Solutions โดยมุ่งเน้นการให้บริการแก่องค์กรเป็นหลัก ได้แก่Plus Tech  และ SABUY Solutions  2.กลุ่มบริการ B2C Solutions เพื่อการให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง คือ SABUY SPEED, Vending Plus, เติมสบายพลัส และล็อก บอกซ์ 3.กลุ่ม Financial Solutions ระบบธุรกรรมทางการเงิน ได้แก่ เลิฟ ลีสซิ่ง

ซึ่งบริการทั้งหมดเป็นธุรกิจเดิมของ SABUY ที่มีศักยภาพในการเติบโตได้รับความนิยมจากองค์กรและผู้บริโภคที่ต้องการใช้บริการ และยังคงสร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อไปโดยวางเป้าหมายจะพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาดำเนินการได้ภายใน 2 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 2569 และจะมีการหยุดธุรกิจที่ไม่สามารถผลกำไรและจำหน่ายสินทรัพย์ออกไป เพื่อให้ธุรกิจมีกระแสเงินสดรองรับการพลิกฟื้นบริษัทในระยะยาว

ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/