#SCB #ทันหุ้น – แม่ทัพไทยพาณิชย์รับปี 2568 ยังท้าทาย เหตุปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เลือกปล่อยสินเชื่อดี พร้อมวางเกมสู้ Virtual Bank กดต้นทุนต่อรายได้ให้ลดลงเหลือ 30% ในอนาคต วางเกม Digital Bank with Human Touch ส่วนปีหน้ารักษาต้นทุนต่ำราว 36.7% เท่าปีนี้ แม้จะมีการลงทุนปีหน้ามาก มั่นใจ ROE ทะลุเกิน 2 หลักให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง

นายกฤษณ์ จันทโนทก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่าในปี 2568 อุตสาหกรรมธนาคารยังพบกับความท้าทาย 3 ด้านใหญ่ๆ กล่าวคือ 1. ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลง โดยคาดการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 2.4%  2. ระดับหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังสูงซึ่งเพิ่มความท้าทายในธุรกิจสินเชื่อมากขึ้น และ 3. เทรนด์ AI และกฎกติกาด้าน ESG ยังคงมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดขึ้นของธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank : VB) ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศผู้ที่ได้ใบอนุญาต VB อย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2 ของ2568 จะเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญในระบบการเงินของไทย เนื่องจาก VB อาจใช้กลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าด้วยดอกเบี้ยสูงและโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูง และ 90% ทั่วโลกยังไม่ทำกำไร

@มองเกม VB

โดยประเมินว่าการที่ VB เน้นกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อตามเจตนารมณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านหนี้เสีย และมองว่าท้ายที่สุดอาจจะต้องแข่งขันในตลาดสินเชื่อบ้าน รถยนต์ การลงทุน และ wealth management กับธนาคารพาณิชย์โดยตรง

@ ROE สองหลัก

ดังนั้น SCB ได้เตรียมความพร้อมโดยการปรับโครงสร้างองค์กร ลดขั้นตอนการทำงาน ลดจำนวนส่วนงาน และบุคลากร มุ่งเน้นการเป็น Digital Bank with Human Touch โดยใช้ Digital เป็นหลัก และจะใช้บุคลากรในการดูแลลูกค้าที่มีมูลค่าสูง ตลอดจนการมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Call Banking ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลงทุน Data Platform เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

และจะมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมในการเป็น AI First Bank รวมถึงการ ตั้งเป้าหมายลด Cost to Income หรือ ต้นทุนต่อรายได้ ให้ลงมาซึ่งส่วนตัวต้องการให้ต่ำในระดับ 30% จากล่าสุดอยู่ที่ 36.7% เป็นการลดลงมาจาก 41% ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง 850 วัน

"การลด Cost to Income Ratio ให้ถึง 30 อาจเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นเป้าหมายที่ SCB ต้องพยายามทำให้สำเร็จเพื่อแข่งขันกับ Virtual Bank แต่ยอมรับว่า ปีหน้าเนื่องจาก SCB ต้องลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Core Banking และ Cloud"

ขณะที่ผลตอบแทนส่วนทุน หรือ ROE จะรักษาให้อยู่ในระดับสองหลัก (Double-Digit ROE) อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่า ไทยพาณิชย์ จะสามารถบรรลุเป้าหมาย ROE สองหลักได้ในปีนี้ เป็นธนาคารแรกที่สามารถทำ ROE ได้สองหลัก

ทั้งนี้แม้ว่า SCB จะอยู่ในช่วงลงทุนและพัฒนาเพื่อการเติบโตในระยะยาว แต่ก็พยายามรักษาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลให้อยู่ในระดับสูง ซึ่งหาก SCB สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ผลตอบแทนของธนาคารก็ควรจะสูงเช่นกัน

สำหรับสถานการณ์การแข่งขันในปีหน้า มองว่า ภาคธุรกิจขนาดใหญ่มีแนวโน้มการแข่งขันสูงขึ้น ธนาคารต่างๆ อาจแข่งขันกันปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ส่วน หนี้ครัวเรือนในระบบลดลง แต่หากรวมหนี้นอกระบบยังคงสูงเกิน 100% สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของฐานะการเงินของประชาชน โดย SCB จะบริหารความเสี่ยงโดยเน้นการการคัดกรองลูกค้าอย่างเข้มงวด โดยเน้นปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ ขณะเดียวกันธนาคารได้มีการบริหารจัดการสำรองหนี้เสียมาอย่างต่อเนื่อง และไม่คาดว่าจะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคต และต้องพิจารณาการขายหนี้เสีย

@ แผนสร้างยั่งยืนอีก 100 ปี

โดยธนาคารจะความสำคัญกับการสร้างคุณภาพใน 3 ส่วน ได้แก่ การมอบคุณภาพให้ลูกค้าด้วยบริการที่ตรงใจ การยกระดับคุณภาพขององค์กร และการสร้างพนักงานที่มีคุณภาพ ผ่านการปรับโครงสร้างและวิถีการทำงาน สร้างความสามารถในการแข่งขัน พร้อมพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนไปอีก 100 ปี ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป 

โดยจะดำเนินการบน 3 แนวทาง ดังนี้ 1. ปรับโครงสร้างการดูแลลูกค้าโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง โดยควบรวมช่องทางให้บริการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อให้เกิดขึ้นจริง ทั้งยังสร้างความคล่องตัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม 2. วางรากฐานดิจิทัลให้แข็งแกร่ง เร่งเสริมความสามารถทางด้าน Digital และ AI ให้ครอบคลุมทั้งองค์กร และแบ่งทีมดิจิทัลเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน AI & DATA Intelligence (Center of Excellence : COE) เป็นศูนย์กลางสนับสนุนการพัฒนาทางด้านดิจิทัลโดยเฉพาะ และอีกส่วนหนึ่งจะถูกจัดลงสู่ทีมธุรกิจเพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินของแต่ละกลุ่มธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง 3. เสริมศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ ภายใต้โจทย์ เร็ว ดี มีนวัตกรรม เพื่อให้รูปแบบการทำงานแบบใหม่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เข้าถึงความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง และไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบเฉพาะบุคคล (Hyper-Personalization)

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/