#ADVANC #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับที่ 1,450 ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,420-1,430 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,460 ถ้าฟื้นตัวกลับขึ้นไป จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,480

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

ดำเนินธุรกิจให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม โดยรวมถึงธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจดิจิทัล เซอร์วิส

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 มีกำไรสุทธิ 8,788 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.95 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 8,146 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.74 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 25,816 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 8.68 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 66 มีกำไรสุทธิ 22,083 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.43 บาท

ADVANC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 8,788 ล้านบาท เติบโต 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF และเติบโต 2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนและต้นทุนการเงินที่ลดลง

ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 27,696 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักและผลกระทบเชิงบวกจากการรวมEBITDA ของ TTTBB ทั้งนี้ EBITDA ทรงตัว 0.3%จากไตรมาสก่อนตามผลประกอบการที่ดีขึ้นชดเชยกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น ส่วน EBITDA margin อยู่ที่ 53.0%ลดลงเล็กน้อยจาก 53.8% ในไตรมาส 2/2567

EBITDA ยังคงเติบโตจากการมุ่งเน้นคุณภาพ การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการได้รับปัจจัยหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงให้ความสำคัญกับคุณภาพและการส่งมอบบริการดิจิทัลที่หลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้า

รายได้รวมอยู่ที่ 52,209 ล้านบาท เติบโต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักทุกกลุ่ม และเติบโต 1.7% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการขายอุปกรณ์เพิ่มสูงขึ้นตามช่วงการเปิดตัว iPhone 16 ในปลายเดือนกันยายน 2567

รายได้จากการให้บริการหลัก (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ NT) อยู่ที่ 40,799 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และการเติบโตปกติของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และเพิ่มขึ้น 1.4%จากไตรมาสก่อนตามการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการเติบโตของบริการลูกค้าองค์กร (ไม่รวมโทรศัพท์เคลื่อนที่)

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีผู้ใช้บริการรวมอยู่ที่ 46.3 ล้านเลขหมาย โดยผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ล้านเลขหมาย เติบโต 35% จากไตรมาส 3 ปีก่อน ตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้มีความแข็งแรง จึงทำให้วันนี้ AIS สามารถขยายโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ AIS 5G ให้ครอบคลุมแล้วกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร ที่วันนี้ได้รับการยืนยันด้วยรางวัลประสบการณ์การใช้งาน 5G ที่ดีที่สุด ทั้งหมด 7 สาขา จาก OPENSIGNAL AWARDS 2024

ธุรกิจบรอดแบนด์ ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้ AIS 3BB FIBRE3 เติบโตขึ้น 62,900 ราย ทำให้มีผู้ใช้บริการรวม ณ ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 4.94 ล้านราย โดยรายได้ของธุรกิจบรอดแบนด์ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และความตั้งใจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านบรอดแบนด์ไฟเบอร์ของประเทศให้มีความแข็งแกร่งครอบคลุมการใช้งานในทุกบ้าน ทุกธุรกิจ ที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ดิจิทัล รวมถึงขีดความสามารถจากนวัตกรรมเน็ตบ้านและเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพที่มากกว่าเดิม

ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20%แรงหนุนสำคัญมาจากการปรับตัวของภาครัฐและภาคธุรกิจที่นำดิจิทัลเข้าไปเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน โดยพร้อมทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลก เช่น ความร่วมมือใน Oracle Cloud และโครงการ GSA Data Center ในการส่งมอบบริการจากธุรกิจคลาวด์ และโครงข่ายข้อมูล

ทั้งนี้ ผลประกอบการรอบ 9 เดือนของปี 2567 เติบโตมากกว่าการคาดการณ์ โดยได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่มีปัจจัยเชิงบวกมากขึ้นในไตรมาส 3/2567ขณะที่ผลกระทบจากปัจจัยตามฤดูกาลปกติลดลงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

รายได้จากการให้บริการหลัก 120,465 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโตกว่าประมาณการที่เติบโต 13-15% EBITDA เติบโต 20% จากปีก่อนมากกว่าคาดโต 14-16% โดยกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนอยู่ที่ 25,816 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF  โดยงวด 9 เดือนบริษัทมีกระแสเงินสด 17,000 ล้านบาท

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 280 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวขึ้นไป ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่า 280 ลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 270 และ 265 ในขณะที่การฟื้นตัวเหนือ 280 จะมีแนวต้านที่ 295 เป็นแนวต้านสำคัญ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/