เคาะ BH

#ทันหุ้น - BH รายงานกำไรสุทธิ 3Q/67 ที่ 1.96 พันล้านบาท (+1.3%QoQ, 0.0%YoY) โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล -5.0%YoY จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง 6.8%YoYและลูกค้าชาวไทยลดลง 1.4%YoY ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ ต่อชาวไทยสิ้นงวดอยู่ที่ 65.7% : 34.3%เทียบกับปีก่อนที่ 66.9% : 33.1% ด้าน EBITDA -1.8%YoY จากต้นทุนกิจการโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น 8.4%YoYและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น +5.2%YoY แต่ยังได้ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 4.3%บรรเทาผลกระทบไปบ้าง ทั้งนี้คิดเป็น EBITDA Margin ที่ 40.2% เทียบกับปีก่อนที่ 38.9% นอกจากนี้ยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากมาตรการส่งเสริมการลทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 30.3% เทียบกับปีก่อยที่ 28.8% สำหรับ ROE เฉลี่ยสิ้นงวดเท่ากับ 31.3% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อน ขระที่อัตราส่วน Net Debt to Equity ลดลงเหลือ 0.1 เท่า จากปีก่อนที่ 0.2 เท่า

แนวโน้ม 4Q/67F คาดว่าจะทรงตัว QoQ แต่ดีขึ้น YoY หลังจากได้ผ่านช่วงจุดพีคของผลประกอบการใน 3Q ไปแล้ว โดยแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงทั้งชาวไทยจากกำลังซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว และต่างประเทศจากคนไข้ชาวคูเวตที่ลดลง เนื่องจากรอความชัดเจนของรัฐบาลคูเวตที่จะประกาศโรงพยาบาลที่จะได้รับการสนับสนุนของรัฐบาล ด้านแนวโน้ม GPM ที่ลดลงต่ำกว่า 50% จาก 3Q/67 ที่ 51.6% แต่เชื่อว่า EBITDA ยังขยายตัวจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ทำได้มีประสิทธิภาพ

ด้าน Bloomberg Consensusประเมินกำไรสุทธิ 4Q/67F ที่ 2.0 พันล้านบาท (+2.2%QoQ, +16.5%YoY) ส่วนภาพปี 67-68F ที่ 7.9 พันล้านบาท +20.7%YoY และ 8.4 พันล้านบาท +7%YoY และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 295.95 บาท โดยในเชิง Valuation ปัจจุบันอยู่บน EV/EBITDA ปี 68F ที่ 16.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 18.3 เท่า ราว 10%โดยมองว่าราคาที่ปรับตัวลงแรงหลังรายงานผลประกอบการต่ำกว่าคาด เป็นจังหวะที่น่าสะสมระยะกลาง-ยาว เนื่องจาก BH มีโอกาสจะเป็นโรงพยาบาลที่รัฐบาลคูเวตดัดเลือกได้

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระดับราคาปรับตัวลงแรงในลักษณะ Panic Sell โดยเปิด Gap แนวต้านกว้าง และมีแรงซื้อกลับขึ้นด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวก ระหว่างวันปรับทดสอบแนวรับ 235-230 เป็นจุดพิจารณาเล่นรอบ แนวรับหลักจุดต่ำแท่งเทียน 226 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา แนวต้านจุดสูงแท่งเทียน 245 ผ่านยืนเป็น Buy เพื่อปิด Gap

คำแนะนำ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ/ซื้อเพิ่ม ลุ้นทดสอบแนวต้าน 245/250/262

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 235-230/226 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา