ค่าเงินบาทแข็ง ฉุดกำไร AAI บล.กสิกรฯลดเป้าเหลือ 7.80 บ.

#AAI #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
บล.กสิกรไทยวิเคราะห์หุ้น AAI ระบุว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก คาดฉุดกำไรไตรมาส 3/67 ของ AAI

บล.กสิกรไทยคาด AAI จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 3/67ที่ 221 ลบ. (เพิ่มขึ้น 70.7% YoY, 34.2% QoQ) ไม่รวมผลขาดทุนจาก FX ที่ 29 ลบ. คิดเป็น 81.4% ของประมาณการทั้งปีของเรา

บล.กสิกรไทยปรับประมาณการกำไรปกติปี 67 ขึ้น 4.0% เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาปลาทูน่าที่ลดลงและรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

บล.กสิกรไทยแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดราคาเหมาะสมลงเป็น 7.80บาท ตามตัวคูณ PER ที่ลดลง เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงสู่ระยะการเติบโตปกติ อุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพยังคงแข็งแกร่งในขณะที่มูลค่าหุ้นไม่แพงมาก

Investment Highlights

พรีวิวไตรมาส 3/2567 บล.กสิกรไทยคาดว่า AAI จะรายงานงบการเงินไตรมาส 3/2567ด้วยกำไรปกติที่ 221ลบ. (+70.7% YoY และ -34.2% QoQ) คิดเป็น 81.4%ของประมาณการทั้งปีของเรา โดยไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) จำนวน 20ลบ. กำไรที่เพิ่มขึ้นเชิง YoY น่าจะมาจาก 1) ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น (+47.0% YoY และ +6.3% QoQ) 2) สัดส่วนยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงที่สูง 90% (+6 ppts YoY และ +1 ppts QoQ) และ 3) ราคาปลาทูน่าที่ลดลง ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 1,415ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (-23.5% YoY) QTD ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ไตรมาส 3/2567น่าจะขยายตัว 2.4 ppts YoY เป็น 18.5% แต่ลดลง 7.2 ppts QoQ จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ซึ่งการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้อยู่ไม่ได้ผลดีนักในช่วงที่ค่าเงินบาทผันผวนอย่างมาก เนื่องจาก AAI ใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะสั้น ดังนั้น การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมากน่าจะส่งผลให้กำไรปกติลดลงในเชิง QoQตามอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ราคาขายเฉลี่ยลดลงเป็น 0.12ลบ. ต่อตัน (-5.5% YoY และ -2.7% QoQ)

แนวโน้ม แม้อุปสงค์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพจะมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากลูกค้ารายสำคัญของ AAI ที่ขยายตลาดไปยังยุโรป แต่แนวโน้มระยะสั้นในครึ่งหลังของปี 2567ยังดูท้าทายสำหรับ AAI เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และการเป็นช่วงโลว์ซีซันของยอดขายในไตรมาสที่ 4/2567 ขณะเดียวกัน เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆในไตรมาสที่ 3/2567 ปี 2567ทำให้ GPM ได้รับผลกระทบน้อยกว่าในไตรมาสที่ 4/2567 หากเงินบาทยังคงแข็งค่าตลอดช่วงที่เหลือของปี 2567นอกจากนี้ เนื่องจาก AAI พึ่งพาการเติบโตของปริมาณมากกว่าการปรับขึ้นราคาขายโดยเฉลี่ย AAI จึงมีความเสี่ยงต่อเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น หากมองไปข้างหน้า AAI จะปรับราคาขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะคาดจะมีผลเต็มรูปแบบในช่วงต้นปี 2568

ปรับประมาณการกำไร บล.กสิกรไทยปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 ขึ้น 4.0% เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาปลาทูน่าที่ลดลง และรายได้ดอกเบี้ยที่สูงจากการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ ASIAN บล.กสิกรไทยคงประมาณการกำไรปกติปี 2568-69 ไว้ตามเดิม เนื่องจากความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าวน่าจะสิ้นสุดในปี 2567

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" AAI แต่ลดราคาเป้าหมายลงเป็น 7.80 บาท อิงด้วย PER ที่ 13.8 เท่า หรือ 0.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง จากเดิม 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต การปรับลดตัวคุณมูลค่าหันสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไทยจากช่วงฟื้นตัวไปสู่ ช่วงเติบโตปกติในปีหน้า นอกจากนี้ การปรับลดตัวคูณมูลค่าหุ้นยังช่วยให้ส่วนต่างของ PER ที่เราใช้อิง ระหว่าง ITC (18.6x) และ AAI ยังอยู่ที่ประมาณ 5 เท่าได้ อย่างไรก็ตาม เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ไว้ตามเดิม จากความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพที่สูงอย่างต่อเนื่อง และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดย ณ ปัจจุบัน หุ้นซื้อขายด้วย PER ปี 2567-69 ที่ 13.8 เท่า/12.1 เท่า/10.7 เท่า หรือ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

Downside risk ได้แก่ 1) เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 2) ปัญหาเรือเดินทะเลขาดแคลน และ 3) อุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงที่ชะลอตัวลง