#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับที่ 1,350 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน 1,365 แต่ไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับฐานลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,350 และ 1,330

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SAWAD หรือบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ "ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ" ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน 2. สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ 3. บริหารสินทรัพย์ 4. รับจ้างติดตามหนี้ 5. บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ

ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 67 มีกำไรสุทธิ 1,265 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.84 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,146 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.76 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 2,526 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.67 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 6 เดือนของปี 66 มีกำไรสุทธิ 2,346 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.55 บาท

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 1,320.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,222.79ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยราว 4,662.27 ล้านบาท เงินปันผลและรายได้อื่นราว 665.98 ล้านบาท รวมรายได้อยู่ที่ 5,328.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.38%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การเติบโตรายได้และกำไรขยายตัวเล็กน้อยท่ามกลางปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ความต้องการสินเชื่อในไตรมาสที่ 2ขยายตัวโดดเด่นที่สุดในช่วงเดือนพฤษภาคม

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิรวม 2,598.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,543.67 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,740.82ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.64%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 99,746 ล้านบาท ส่วนครึ่งแรกของปี 67บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ที่มาจากนโยบายการช่วยเหลือลูกค้าให้ดีขึ้นและแก้ปัญหาภาวะขาดทุนจากรถยึด เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวแก่บริษัทและช่วยควบคุมระดับเอ็นพีแอลให้เป็นไปตามกรอบนโยบายของบริษัท

สถานการณ์ขาดทุนจากการขายรถยึดได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว ครึ่งปีหลังจะเป็นครึ่งปีที่เติบโตดีขึ้น ศรีสวัสดิ์จะเน้นโฟกัสธุรกิจหลักคือสินเชื่อที่มีหลักประกัน และเพิ่มขนาดธุรกิจนายหน้าประกัน โดยที่บริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชันให้สามารถกดซื้อผ่านออนไลน์ และซื้อผ่านสาขาที่พนักงานสามารถคำนวณเบี้ยประกันจากพันธมิตรชั้นนำได้อย่างเหมาะสม คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้เร่งขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการสินเชื่อและการเติบโตในอนาคต จบสิ้นปีนี้ศรีสวัสดิ์จะมีสาขาทั้งหมด 5,600 สาขาโดยประมาณ

ส่วนด้านสภาพคล่องจากการออกหุ้นกู้ บริษัทมั่นใจสถานะทางการเงินว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เพราะด้วยลักษณะของธุรกิจทำให้มีกระแสเงินสดในแต่ละวันหมุนเวียนเข้าบริษัทอย่างมาก พร้อมชำระหุ้นกู้ได้ตลอดเวลา ประกอบบริษัทมีพันธมิตรรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการเงินจากไต้หวันที่พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานเครือศรีสวัสดิ์ จึงยิ่งทำให้สถานะการเงินของบริษัทมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทสามารถชำระคืนได้ตรงตามกำหนดเสมอมา

รวมทั้ง บริษัทได้ประเมินความเหมาะสมในการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นกู้ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน บริษัทคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะดอกเบี้ยขาลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนในช่วงครึ่งหลังของปี 67 ในการบริหารธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 39.00 หลังจากปรับตัวลดลงไปทำจุตด่ำสุดที่ระดับ 27.50 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 35.00 และ 34.00 แต่ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 40.00 ขึ้นไป จะมีแนวต้านถัดไปที่ 42.00

ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/