บล.ดีบีเอสฯคาด SET 1,450 ปี 2568 คัด 5 หุ้นเหมาะลงทุน

#หุ้นเด่น #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สคาดเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ 1,450 ในปี 2568 แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในเดือนกันยายน เลือกเก็งกำไรรอบสั้น (ตั้งจุดขายและ Stop loss อย่างมีวินัย) สะสมหุ้นพื้นฐานดีจังหวะราคาอ่อนตัว บล.ดีบีเอสฯแนะนำหุ้นเด่น 5 ธีมลงทุน

ธีม ท่องเที่ยวฟื้นตัวแกร่ง หุ้น AOT ราคาพื้นฐาน 73.00 บาท

ปริมาณเที่ยวบินฟื้นตัวเป็น 83% ของก่อนโควิด โดยปริมาณเที่ยวบินต่างประเทศและในประเทศฟื้นเป็น 88%/81% ของก่อนโควิด

EBITDA margin 3Q24 เพิ่มเป็น 57.3% จาก 53.4% ใน 3Q23 และ 48% ใน 4Q23 กระแสเงินสดจากการดำเนินงานงวด 9M24 เพิ่มแกร่ง +133%YoY เป็น 28.5 พันล้านบาท ขณะที่ใช้เงินลงทุนไปเพียง 9.8พันล้านบาท ทำให้มี Free cash Flow สูงมากที่ 18.6 พันล้านบาท ณ สิ้น 3Q24 มีฐานะเป็นเงินสดสุทธิ 7.7 พันล้านบาท

แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 73 บาท โดยคาดการณ์ core profit ปี 24F (สิ้นสุดก.ย.24) และปี 25F (สิ้นสุด ก.ย.25) เติบโต +123%YoY และ +19%YoY ตามลำดับ หนุนโดยการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินและผู้รับสัมปทานเช่าพื้นที่

ธีม Medical Tourism หุ้นเด่น BH ราคาพื้นฐาน 302 บาท

แม้รายได้คนไข้คูเวตจะลดลงมาก (-74.5% yoy) แต่รายได้จากตะวันออกกลางยังเติบโต 2.1%และมีสัดส่วนราว 25% ของรายได้รวมใน 2024 ทาง BH คาดรัฐบาลคูเวตจะสรุปรายชื่อร.พ.ในไทย 3 แห่งที่ประชาชนสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ใน 3Q24 และ เชื่อมั่นว่าร.พ.จะอยู่ในรายชื่อ

ขยายตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันมี 125 ออฟฟิศในต่างประเทศที่ส่งคนไข้เข้ามาที่ BH ซึ่งเพิ่มจาก 83 ออฟฟิศในปี 23

BH ขยายเตียงรองรับผู้ป่วยในปี 24-25 โดยได้เพิ่มเตียง IPD เป็น 537 เตียงใน 2Q24 (จาก 488 เตียงใน 1Q24) อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 65-66%ใน 2Q24 และมีแผนเพิ่มป็น 561 และ 620 เตียงในสิ้นปี 24-25

แผนขยายธุรกิจ BH เปิด scientific wellness centre ที่ภูเก็ตในเดือนมิ.ย.24และเปิดร.พ.ใหม่ขนาด 212 เตียงที่ภูเก็ต (BIH) 2Q-3026

แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐานเป็น 302 บาท (DCF) คาดกำไรสุทธิปี 24F ขยายตัว +16%YoY และเติบโตต่อ +4% ในปี 25F

ธีม การลงทุนฟื้นตัว หุ้นเด่น CK ราคาพื้นฐาน 26.00 บาท

Backlog สิ้น 2Q24อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.2 แสนล้านบาท ทำให้การรับรู้รายได้มีความมั่นคงในระยะยาว นอกจากนั้น CK ยังจะเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่เข้ามาเพิ่ม

คาดการณ์กำไรสุทธิ 2H24F เพิ่มขึ้น HoH จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 3 ผลประกอบการ CKP และ LPCL จะสูงขึ้นเพราะเป็นฤดูน้ำหลาก และมีเงินปันผลรับจาก TTW ใน 3Q24F ทั้งนี้ ผู้บริหารคงเป้ารายได้ปีนี้โต +3%YoY เป็น 3.5-3.6 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 7-8%

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 26 บาท (SOTP) ทั้งนี้ เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 24F-25F เติบโต +18%YoY และ+19%YoY เป็น 1.7 และ 2.1 พันล้านบาท ตามลำดับ

ธีม การบริโภคเติบโตดี หุ้นเด่น CPALL ราคาพื้นฐาน 72.00 บาท

ได้ประโยชน์จากยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น การขยายสาขาใหม่ และภาคท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่องในปี 24F-25F มาตรการฟรีวีซ่าของรัฐบาลจะช่วยหนุนให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น

คาด CPALL ได้อานิสงส์จากโครงการดิจิตอลวอลเล็ตมาก เนื่องจากปัจจุบันมีสาขา 7-11 กว่า 1.45 หมื่นสาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยจะเห็นผลดีในปี 25F

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแกร่งปีละ 5 หมื่นกว่าล้านบาท สภาพคล่องทางการเงินดี ROE สูงที่ 17%

คาดกำไรสุทธิปี 24F-25F เติบโต +27% และ +12%

แนะ “ซื้อลงทุน” โดยให้ราคาพื้นฐาน 72 บาท (DCF) บริษัทมี SET ESG Ratings : AAA และ CG Report : 5 ดาว โดยหุ้นอยู่ใน SETESG และ DJSI ด้วย

ธีม Valuation & Dividend Play หุ้นเด่น KTB ราคาพื้นฐาน 21.00 บาท

ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) แข็งแกร่ง โดยหลักมาจาก NIM ที่สูง รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม รายได้เงินปันผลรับช่วยหนุน

คุณภาพสินทรัพย์จัดการได้ โดยใน 2Q24 มี NPL ratio ทรงตัวที่ 3.1%ตั้งสำรอง ECL 8.0 พันล้านบาทใน 2Q24โดยรวมทำให้ Coverage ratio ทรงตัวสูงที่ 181%

เงินกองทุนแข็งแกร่ง ณ สิ้น 2024 มี CAR และ Tier-1 ratio 20.7% และ 17.6% สูงกว่าขั้นต่ำที่ธปท.กำหนดไว้ที่ 12.0% และ 9.5%

คาดการณ์กำไรสุทธิปี 24F เติบโต +17.6%YoY หนุนโดยรายได้เพิ่มและตั้งสำรองฯ ลดลง

Valuation ถูก โดยมี P/BV ปีนี้ต่ำเพียง 0.6 เท่า คาด DY 5% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง)

แนะนำ “ซื้อ” KTB โดยให้ราคาพื้นฐาน 21 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 0.68 เท่า (Mean+0.5SD)