#KWM #ทันหุ้น – KWM เดินเกมบุกตลาดต่างแดน หาซัพพลายเออร์ เทคโนโลยีใหม่เสริมทัพ หวังลดต้นทุนหนุนประสิทธิภาพการผลิต ชูมาร์จิ้นทะลุ 20% ด้านบิ๊กบอส “เอกพันธ์ วนโกสุม” ควักงบ 30 ล้านบาท อัพกำลังผลิตรองรับลูกค้าใหม่ จากปัจจุบัน 1.5 พันใบต่อวัน

นายเอกพันธ์  วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า แผนธุรกิจช่วงที่เหลือปีนี้ บริษัทจะเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ อาทิ ตลาดอินโดนีเซีย ตลาดแถบประเทศยุโรป เพราะตลาดในประเทศไทยค่อนข้างอิ่มตัว และอาจจะเติบโตไม่มากเหมือนช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามในประเทศ บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ที่ระดับ 50-60% ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มใบผลาญ

// ขยายฐานลูกค้า

ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2567 นี้ เป็นช่วงโลว์ซีซัน แต่คาดตัวเลขจะไม่ได้ลดลงอย่างที่คาดการณ์ไว้ เพราะบริษัทมีตลาดใหม่เข้ามาเสริม ปัจจุบันบริษัทผลิตสินค้าให้กับ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด และอีกส่วนหนึ่งบริษัทผลิตและขายภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัทเอง แบรนด์ “Pegasus” ทั้งใบจักร ใบผาล ใบคัดท้าย ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายให้กับกลุ่ม บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด คิดเป็น 75% และนอกคูโบต้า คิดเป็น 25%

“เรากำลังหาทั้งลูกค้า และซัพพลายเออร์ต่างประเทศ โดยลูกค้าต่างประเทศเราอาจต้องศึกษามากกว่าเขาต้องการสินค้าแบบใด เช่น ที่อินโดนีเซีย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรรกรรมทำปาล์ม เราควรผลิต หรือมีใบผลาญที่เหมาะในการใช้ในสวนปาล์ม แต่การทำตลาดที่อินโดนีเซีย เราอาจจะต้องมาศึกษาว่าควรผลิตสินค้า หรือแบบเทรดดิ้ง ส่วนซัพพลายเออร์เราบินไปจีน ไปคุยกับโรงเหล็ก หาเหล็กที่มีคุณภาพ เพื่อมาเป็นวัตถุดิบ” นายเอกพันธ์ กล่าว

ในเดือนกันยายน บริษัทมีแผนจะเดินทางไปประเทศจีน เพื่อเจรจาเรื่องปริมาณการซื้อขายเหล็ก และมองหาเหล็กที่มีคุณภาพ พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ เพื่อมาพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุน รวมถึงการทดแทนแรงงานคน นอกจากนี้เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดการเสียหายการผลิต ซึ่งโดยรวมจะส่งผลดีต่อต้นทุน และอัตรากำไร (มาร์จิ้น) บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 30 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนเครื่องจักรใหม่

// โชว์กำลังการผลิต

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตใบผลาญเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2-1.5 พันใบต่อวัน ส่วนใบเกลียวอยู่ที่ 2-3 หมื่นเส้นต่อเดือน แม้กำลังผลิตจะยังไม่เต็ม Capacity แต่เชื่อว่ากำลังผลิตจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามกลยุทธ์ทางการตลาดและการขยายฐานลูกค้าตามแผน

อย่างไรก็ตามการนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยให้แนวโน้มมาร์จิ้นทรงตัวอยู่ในระดับสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ตามไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ระดับ 24.14%

บริษัทมองภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศอาจจะไม่ดีมากนัก แต่บริษัทมีนวัตกรรมที่ดี ดังนั้นเชื่อว่าสินค้านวัตกรรมใหม่จะสนับสนุนยอดขายสินค้าอุปกรณ์การเกษตรให้เติบโตดีขึ้น และเชื่อว่าในปีนี้พืชผลทางการเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้บริษัทมองภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรก 2567 จะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน และในครึ่งปีหลัง 2567 คาดจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก

อนึ่ง 3 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้ที่ 154.27 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 17.47 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/