> mai > ZIGA

10 เมษายน 2024 เวลา 08:48 น.

ZIGA เจาะฐาน B2C ทำเงิน โครงการรัฐหนุนยอดพุ่ง

#ZIGA #ทันหุ้น – ZIGA ส่งซิก 3 เดือนแรกธุรกิจสดใส หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ ฟากพ่อทัพใหญ่ “ศุภกิจ งามจิตรเจริญ” เล็งเจาะกลุ่มลูกค้า B2C เพิ่ม ปั๊มสัดส่วนยอดขายพุ่งชน 20% โดดรับอานิสงส์โครงการรัฐ “วัวแสนล้าน” ดันยอดใช้เหล็กเพิ่มขึ้น จ้องผนึกพาร์ตเนอร์ต่อยอดเทคโนโลยี


นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจ 3 เดือนแรกปี 2567 ผลงานอยู่ในระดับที่ดีและน่าพอใจ เพราะบริษัทปรับรูปแบบธุรกิจ (Business Model) การขายเหล็กไปสู่กลุ่ม B2C มากขึ้น ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนการขายให้กับ B2C ขยับเพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขไตรมาส 1/2567 แต่แนวโน้มการขายช่วงที่ผ่านมา มีปริมาณ (วอลุ่ม) สูงขึ้นในกลุ่มนี้


** เจาะฐาน B2C

ขณะเดียวกันเชื่อว่าสัดส่วนการขายกลุ่ม B2C จะขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการจากภาครัฐ “วัวแสนล้าน” ที่รัฐสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้แก่เกษตร จะเป็นแรงขับเคลื่อนยอดขายเหล็ก เพื่อนำไปใช้ทางการเกษตรให้เติบโตสูงขึ้น


ปัจจุบันบริษัทปรับกลยุทธ์โดยเจาะกลุ่ม B2C และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้จริงมากขึ้น ผ่านการโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก Tik Tok และอินสตราแกรม บริษัทมั่นใจจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และมียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าของ ZIGA เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานจริง อีกทั้งสินค้ามีคุณภาพที่ดี เหมาะกับการใช้งานต่างๆ


นอกจากนี้ในต้นไตรมาส 2/2567 บริษัทจะออกสินค้าใหม่ เพื่อรองรับกับความต้องการใช้งาน ซึ่งบริษัทคาดการขายสินค้าโดยตรงให้กับ B2C จะช่วยเพิ่มอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ปี 2567 ให้สูงขึ้น และคาดสัดส่วนยอดขายจากกลุ่ม B2C จะอยู่ที่ระดับ 20% ขึ้นไปของยอดขายรวม

“แนวโน้มผลงาน Q1 ก็ค่อนข้างดี หลังจากเราปรับโมเดลบิสซิเนส ส่วนบิทคอยน์ยังเดินหน้าเต็มที่ ตอนนี้เรามีอยู่ 200 เครื่อง เดินหน้าเต็มกำลัง 24 ชั่วโมงในช่วงปลาย Q1/2567” นายศุภกิจ กล่าว


** ผนึกพาร์ตเนอร์

อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนจะจับมือกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยี โดยจะร่วมมือทางธุรกิจ และสร้างฐานการเติบโตในอนาคต และบริษัทจะเดินหน้าธุรกิจเพื่อรับเทรนด์ และเป็นไปตามกระแสโลก คาดจะเปิดตัวการร่วมมือกันในเร็วๆ นี้


นายศุภกิจ กล่าวต่อว่า ภาพรวมยอดขายปี 2567 คาดจะเติบโตระดับ 10% ซึ่งบริษัทมองเป็นการเติบโตแบบ Conservative เพราะดูจากสถานการณ์และการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ อาจจะยังไม่ฟื้นตัวชัด และยังมีความเสี่ยงสูง อีกทั้งบิรษัทจะเน้นผลักดันอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ให้สูงขึ้น


อนึ่ง ผลประกอบการปี 2566 บริษัทพลิกมีกำไร 41.6 ล้านบาท จากปี 2565 ที่ขาดทุน 380.9 ล้านบาท หรือมีกำไรเพิ่มขึ้น 422.5 ล้านบาท คิดเป็น 110.9%


ส่วนรายได้ปี 2566 ทำได้ 770.9 ล้านบาท เทียบกับปี 2565 ที่ 1,124.1 ล้านบาท ลดลง 353.2 ล้านบาท หรือลดลง 31.4% เนื่องจากบริษัทเลือกบริหารจัดการสินค้าเฉพาะกลุ่มที่บริษัทได้กำไร และลดสัดส่วนสินค้าที่มีโอกาสขาดทุน เพราะต้นทุนผันผวนตามราคาเหล็กและอัตราแลกเปลี่ยน จึงทำให้รายได้ของสินค้าลดลง

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X