XPG พุ่ง 23% เทรดสนั่น 1.2 พันลบ. โบรกมองรับผลดี BTC Halving

#XPG #ทันหุ้น - การซื้อขายหุ้น XPG วันนี้ (26 มี.ค.) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เปิดการซื้อขายช่วงเช้า จากระดับ 1.20 บาท ขึ้นมาเหนือ 1.40 บาทในช่วงครึ่งวันเช้า ในช่วงบ่ายราคายังขึ้นไปต่อเนื่อง ระหว่างวันราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1.22-1.53 บาท ก่อนจะปิดตลาดที่ 1.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท หรือเพิ่มขึ้น 23.33% มูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับสอง 1,206.79 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์เอกซ์ให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นขึ้นเด่นในวันนี้คาดว่าได้ประเด็นหนุนจากการเกิด BTC halving ในเดือนเมษายน รวมถึงราคา BTC ที่ผันผวนในกรอบราคาสูงเพิ่มโอกาสการเทรด ซึ่ง YTD XPG มี vol การซื้อขาย Digital Assets เติบโตกว่า 3 เท่า และมี Market share ในลำดับที่ 4

ธุรกิจอื่นคาดเติบโตต่อเนื่อง ทั้งสินเชื้อ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม AMC และ ICO portal

คาดรายได้ และกำไรสุทธิทำ new high ที่ 178 ล้านบาท

บล.อินโนเวสท์เอกซ์ให้กรอบราคาเป้าหมาย 2.30-3.10บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ XPG หรือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

บล.หยวนต้าได้ออกบทวิเคราะห์หุ้น XPG เมื่อวันที่ 13 มี.ค.67 ระบุว่า ธุรกิจเดิมยังแข็งแรง และธุรกิจใหม่เริ่มสร้างกำไร

Event

วันที่ 12 มี.ค. XPG จัดประชุมนักวิเคราะห์ โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้รวมปี 2567 จะแตะ 1 พันลบ. (+60.8%YoY) หนุนจาก 1) ธุรกิจให้สินเชื่อแบบมีหลักประกันแก่ลูกค้าในกลุ่มบริษัท (คิดดอกเบี้ยราว 8-10% ต่อปี) ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นแตะ 7-8 พันลบ. จาก 4 พันลบ. ในปี 2566 เนื่องจากปัจจุบันตลาดตราสารหนี้เริ่มมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องของ Issuer ทำให้ต้นทุนทางการเงินในการออกตราสารหนี้สูงขึ้น จึงมีบริษัทบางส่วนมองหันมากู้ยืมเงินผ่าน XPG แทน นอกจากนี้บริษัทจะเริ่มต่อยอดธุรกิจโดยแปลงสินเชื่อที่บริษัทปล่อยกู้โดยตรง ไปเป็น Private Credit (แบ่งสิทธิในการเป็นเจ้าหนี้บางส่วน แล้วเสนอขายให้กับนักลงทุนที่สนใจ) เพื่อเสนอขายให้กับลูกค้ากลุ่ม High Net Worth (HNW) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับ XPG และทำให้บริษัทมี่เงินทุนกลับคืนมาเพื่อปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เร็วขึ้น

2) ธุรกิจบริหารจัดการหนี้เสีย (AMC) ปีนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลการลงทุน หลังจากซื้อหนี้เสียแบบมีหลักประกันมาบริหารนานกว่า 3 ปี จนปัจจุบันมีกองหนี้เสียราว 51% อยู่ระหว่างการบังคับคดี ซึ่งจะตามมาด้วยการขายทอดตลาดในลำดับถัดไป นอกจากนี้ช่วงปลายปี 2566 บริษัทเริ่มประมูลซื้อหนี้เสียแบบไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหาร 1 พันลบ. (25% ของหนี้เสียภายใต้การบริหารที่ 4 พันลบ.) เพื่อเร่งผลจัดเก็บเงินสดของธุรกิจให้เร็วขึ้น เพราะปกติหนี้เสียแบบไม่มีหลักประกันจะให้ผลตอบแทนเร็วกว่า (เริ่มมีผลจัดเก็บเงินสดตั้งแต่ 3 เดือนแรกหลังจากรับโอนสิทธิ) ส่วนทั้งปีตั้งงบลงทุน 1.5-2.0 พันลบ. เพื่อเข้าประมูลหนี้เสียกองใหม่ ทำให้คาดปี 2567 Xspring AMC จะพลิกมีผลกำไรสุทธิเป็นปีแรก

3) การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม เป็นอีก 1 ประเด็นน่าสนใจ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะจัดตั้งกอง Real Estate Private Equity มากขึ้น (ยังไม่ระบุตัวเลข) จากปีที่แล้วที่ทำร่วมกับ SIRI ไปแล้ว 6 กอง (Project Value ราว 1.1 หมื่นลบ.) บวกกับส่วนแบ่งกำไรจาก KTX ซึ่งคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 75-80 ลบ. จากเพียง 50 ลบ. ในปีก่อน หลังเน้นขยายธุรกิจ Non-Brokerage

นอกจากนี้ยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Digital Asset ตามปริมาณซื้อขายที่ฟื้นตัว อีกทั้งบริษัทมีดีล ICO ที่คาดจะระดมทุนในปีนี้ราว 3 พันลบ. (ค่าธรรมเนียม 1-2%)

Our Take

บล.หยวนต้ามีมุมมองเป็นบวกหลังจบการประชุม โดย XPG ถือเป็นหุ้น Turnaround ที่มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนให้ไทยเป็น Digital Asset Hub ซึ่งล่าสุด ครม. มีมติเห็นชอบให้ส่วนแบ่งกำไรหรือผลประโยชน์จากการลงทุนใน Investment Token ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ คาดจะช่วยให้การออก ICO ของบริษัทได้รับความนิยมมากขึ้น

อย่างไรก็ดี บล.หยวนต้ายังไม่มีประมาณการกำไรและการประเมินมูลค่าพื้นฐานสำหรับ XPG แต่มองว่าช่วงสั้นจะมีแรงเก็งกำไรจากทั้ง 1) การพลิกพื้นของผลดำเนินงานใน 1Q67 ที่คาดโต QoQ และพลิกมามีกำไรสุทธิ จากที่ขาดทุน 7.6 ลบ. ใน 1Q66 และ 2) การแถลงกลยุทธ์ปี 2567 แก่สื่อมวลชน โดยคุณระเฑียร ศรีมงคล CEO ใหม่ของบริษัททำให้ตลาดเห็นภาพการเติบโตของ XPG มากขึ้น

ระยะยาว บล.หยวนต้ามองว่า XPG ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะปัจจุบันมี D/E Ratio เพียง 0.04x หลังเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ตั้งแต่ปี 2564 และจะยิ่งแข็งแรงขึ้นหลังคาดจะได้รับเงินจากการใช้สิทธิ XPG-W4 ราว 1 พันลบ. (หมดอายุ 18 เม.ย.) ทำให้ XPG มีความพร้อมในแง่เงินทุน และมีโอกาสใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อ Leverage การเติบโตของบริษัททั้งในธุรกิจปล่อยสินเชื่อ, ธุรกิจ AMC, ธุรกิจ บลจ. และธุรกิจ Digital Asset

ความเสี่ยงสำคัญ : กฎระเบียบของธุรกิจ Digital Asset, การผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ และความผันผวนของปริมาณการซื้อขายหุ้นและ Digital Asset