#ATP30 #ทันหุ้น - ATP30 มั่นใจเติบโตต่อเนื่อง รุกโมเดลเดินรถรับส่งพนักงาน ESG ชี้กระแสแรง ย่องเจรจาลูกค้าเจาะโรงงานอุตสาหกรรมชลบุรี-ระยอง บอสใหญ่ “ปิยะ  เตชากูล” โฟกัสความสามารถในการทำกำไร ดันมาร์จิ้นยืนพื้น 22% รับอานิสงส์รัฐอุ้มราคาดีเซล ได้ลูกค้ารายใหญ่หนุนรายได้เต็มปี 2567

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2567 จะเติบโตดีจาก การที่บริษัทมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาในครึ่งปีหลัง 2566 หลายรายซึ่งยังรับรู้ไม่เต็มปี แต่จะมารับรู้ในปี 2567

นอกจากนี้บริษัทจะได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลยังคงนโยบายรักษาราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้ปรับตัวสูงต่อเนื่องอีก 3 เดือน นับว่าเป็นข่าวดีต่อ ATP30 เพราะต้นทุนหลักของบริษัทคือน้ำมันดีเซล

@รุกอีวีรับ-ส่งพนักงาน

บริษัทยังคงเดินหน้าในการใช้รถไฟฟ้า (อีวี) รับส่งพนักงาน ซึ่งตรงกับเทรนด์ ESG ที่กำลังมาแรง โดยลูกค้าเริ่มสนใจจะใช้รถไฟฟ้าเพื่อลดการปลอยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น

“ATP30 ใช้โมเดลการเดินรถดังกล่าวมากว่า 1 ปีแล้ว คาดในปี 2567 จะช่วยตอบสนองความต้องการลูกค้าสำหรับเทรนด์ ESG ได้ดี”

นายปิยะ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างนำเสนอโปรเจ็กต์ให้กับลูกค้า รวมถึงรายละเอียดการคำนวณคาร์บอนต่างๆ คาดจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มงานอุตสาหกรรม โดยในย่าน ชลบุรี ระยอง ให้ความสำคัญกับกระแส ESG ค่อนข้างมาก

ขณะที่การใช้รถไฟฟ้าสำหรับรับส่งพนักงานจากแหล่งชุมชนไปโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันบริษัทใช้รถจำนวน 5 คัน และอยู่ระหว่างสั่งเพิ่ม 3-4 คัน และเป้าหมายปี 2567 คาดจะมีรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 คัน ทั้งรถบัส รถมินิบัสไฟฟ้า

@มั่นใจมาร์จิ้นขยับ

นายปิยะ ประเมินรายได้ปี 2567 คาดจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้ปีนี้จะไม่มีการเพิ่มรถจำนวนมาก ยกเว้นรถไฟฟ้าที่บริษัทอยู่ระหว่างการสั่งต่อรถเพิ่มเติม แต่บริษัทจะโฟกัสความสามารถในการทำกำไรให้เพิ่มขึ้น

“ครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีข้อจำกัดในการทำกำไร ทั้งการส่งรถในพอร์ตเข้าซ่อมบำรุงจำนวนมาก และราคาน้ำมันปรับตัวสูง ขณะที่ปัจจุบันปัจจัย 2 ทั้งคลี่คลาย ทั้งการส่งรถเข้าซ่อมบำรุงน้อยลง ราคาน้ำมันดีเซลรัฐยังคงราคา ดังนั้นความสามารถในการทำกำไรปี 2567 มีโอกาสที่จะดีกว่าปี 2566”

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปี 2567 คาดจะอยู่ที่ระดับ 22% ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) จะอยู่ที่ระดับ 8-10%

อนึ่ง ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2566บริษัทมีรายได้รวม 497.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 478.36ล้านบาท จำนวน 18.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.95% และมีกำไรสุทธิ 19.31 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 29.79 ล้านบาท ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทให้บริการรถรับส่งพนักงานเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=