GFPT บริษัทยังคงเป้ารายได้โต 5-8% 'ทิสโก้' มองราคาปรับลง โอกาสสะสม

#ทันหุ้น - บล.ทิสโก้ ส่องหุ้น GFPT บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2566F เพิ่มขึ้น 5-8% โดยในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. รายได้ดีขึ้นทำให้ Q3/66F มีโอกาสเพิ่มขึ้น QoQ จากธุรกิจอาหารสัตว์และธุรกิจฟาร์มที่กลับมาเพิ่มขึ้น ในส่วนธุรกิจไก่คาดการส่งออกจากจีนดีขึ้นจากการเปิดการท่องเที่ยว ยกเว้นประเทศญี่ปุ่นอ่อนตัวจากค่าเงินเยนที่ลดลง และกลุ่มประเทศยุโรปมีการต่อรองราคาลดลงจากการปรับลดลงของค่าขนส่งทางเรือ

สำหรับราคาไก่ปัจจุบันอยู่ที่ 36.5 บาท ลดลงต่ำสุดในปีนี้ เนื่องจากเข้าสู่หน้าฝน บริษัทคาดเฉลี่ยทั้งปีที่ 38-40 บาท/กก. จากปีที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 42.5 บาท/กก. ไม่น่าจะต่ำกว่านี้ เนื่องจากต้นทุนที่อยู่ระดับสูงของกากถั่วเหลืองและข้าวโพดแม้จะมีการปรับตัวลดลงมาบ้าง จากกรณีรมว.พาณิชย์สั่งลดราคา ข้าว-ไก่-ไข่-หมู ให้มีความชัดเจนต้นเดือน ต.ค. หลังลดราคาน้ำมันดีเซลนั้น ทางบริษัทมองว่าค่อนข้างยาก เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันราคาทั้งหมูและไก่ตกต่ำ ต้นทุนยังอยู่ระดับสูงแม้มีการปรับลงมาบ้าง ประกอบกับยังประสบปัญหาหมูเถื่อนที่กดราคาตลาดลง และต้นทุนพลังงานที่ลดลงคิดเป็นสัดส่วนของต้นทุนเล็กน้อยเท่านั้น บริษัทมองว่าอาจจะเป็นการขอความร่วมมือในการลดราคาสินค้าบางส่วนมากกว่า

แนวโน้มกำไรสุทธิ Q3/66F ลดลง YoY, แต่มีโอกาสเพิ่มขึ้น QoQ จากเดิมที่คาดทรงตัว QoQ เนื่องจากธุรกิจฟาร์มที่เพิ่มขึ้นยอดขายกลับมาปกติช่วงก่อน pre-covid ที่ 1.5 แสนตัว/วัน จาก 1.3 แสนตัว/วัน และธุรกิจอาหารสัตว์บกกลับมาเพิ่มขึ้น ในส่วนธุรกิจ Food คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับอัตรามาร์จิ้นคาดดีขึ้น QoQ ต้นทุนข้าวโพดและกากถั่วเหลืองที่เริ่มปรับลดลง ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการเดิมปี 2566-67F โดยคาดส่งออกปีนี้ ลดลง 8% คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,294 ล้านบาท (-37%YoY) และ 1,382 ล้านบาท (+7%YoY) ตามลำดับ จากการคาดราคาขายอยู่ที่ 40 บาท/กก. คาดราคากากถั่วเหลืองอยู่ที่ 22.5 บาท และราคาข้าวโพดอาหารสัตว์คาดอยู่ที่ 13.40 บาท จากความผันผวนของภูมิอากาศแปรปรวนส่งผลต่อผลผลิต

ฝ่ายวิจัยเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เป็นโอกาสในการสะสมหุ้น จากราคาหุ้นปัจจุบันปรับลดลงมา 20% จากต้นเดือน ก.ค.66 สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนตัวเทียบกับปี ที่มาผ่านมาแล้ว และแนวโน้ม Q3/66F คาดจะดีขึ้นต่อเนื่องผ่านจุดต่ำสุดใน Q1/66 แล้ว ประกอบกับ PER66F ที่ต่ำเพียง 10X ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 13.50 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ยที่ 13X, Dividend Yield 66F อยู่ที่ 2.1% ความเสี่ยง ราคาไก่และต้นทุนผันผวน