#GFPT #ทันหุ้น – GFPT มั่นใจยอดขายไตรมาส 3/2566 ทรงตัว 8 พันตัน หนุนจากธุรกิจฟาร์ม และจำหน่ายอาหารสัตว์บก รวมถึงญี่ปุ่น จีน และไทย มีความต้องการผลิตภัณฑ์ไก่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่ง และอาหารเลี้ยงสัตว์เริ่มปรับลดลง หนุนศักยภาพการทำกำไรช่วงครึ่งปีหลัง ด้านนักวิเคราะห์คาดไตรมาส 3/2566 กำไรโต 7% แนะซื้อเป้า 14.20 บาท

นายวีระ  ธิตยางกรุวงศ์  ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ปริมาณยอดขายรวมงวดไตรมาส 3/2566 มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 2/2566 ที่ทำได้ราว 8.3 พันล้านตัน แต่ยังคงอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) หนุนจากธุรกิจฟาร์มและธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) ขณะที่การจำหน่ายไก่ปรุงสุกแปรรูปยังคงมุ่งรักษาฐานตลาดหลักของบริษัททั้งญี่ปุ่น, ทวีปยุโรป รวมถึงขยายฐานเข้าสู่ประเทศอังกฤษหลังแยกตัวออกจากทวีปยุโรปแล้ว ส่วนการจำหน่ายชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็งยังคงสามารถขยายฐานการตลาดเข้าสู่ประเทศจีนได้อย่างแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเห็นคำสั่งซื้อสินค้าทั้งไก่ปรุงสุกแปรรูป และผลิตภัณฑ์ไก่สดแช่แข็งในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส 4/2566 เพื่อเตรียมสต๊อกสินค้าไว้จำหน่ายช่วงวันหยุดยาว และเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปี เช่นเดียวกับยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภทชิ้นส่วนไก่สด, ไส้กรอก-ลูกชิ้นในประเทศที่เร่งตัวได้อย่างต่อเนื่อง หนุนจากการเดินทางท่องเที่ยวที่คึกคัก ส่งผลให้ร้านค้าทั้งประเภท Fast Food และ Street Food ขายดีขึ้น

*ดีมานด์ไก่ฟื้น

“บริษัทยังคงมุ่งผลิตไก่ปรุงสุกแปรรูปซึ่งมี Margin ที่ดีเพื่อส่งออกไปยังญี่ปุ่น, ทวีปยุโรป และอังกฤษซึ่งเป็นตลาดหลัก ขณะที่ยอดส่งออกไก่สดแช่แข็งไปยังจีนยังสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่า ณ สิ้นปี 2566 สัดส่วนการส่งออกชิ้นส่วนไก่แช่แข็งไปตลาดจีนจะฟื้นตัวราว 75% เมื่อเทียบกับก่อนสถานการณ์โควิด-19”

ขณะเดียวกันบริษัทในเครือ อาทิบริษัท แมคคีย์ ฟู้ด เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (MCKEY), บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด (GFN)ก็ได้รับคำสั่งซื้อทั้งผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกแปรรูป และเนื้อไก่สดแช่แข็งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ MCKEY ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ให้กับแมคโดนัลด์ เอเชียแปซิฟิก มีคำสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาในกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) สูงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“แมคคีย์เองก็มีรับคำสั่งซื้อเข้ามากขึ้น โดยสินค้าของแมคคีย์เองเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ส่วน GFN นั้นก็ขายชิ้นส่วนไก่ได้มากขึ้น โดยราคาชิ้นส่วนไก่นั้นดีกว่าไก่ตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนศักยภาพการทำกำไรทั้งปีของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ”

*ต้นทุนลดลง

พร้อมกันนี้ต้นทุนการดำเนินงาน โดยเฉพาะต้นทุนค่าขนส่ง (อัตราค่าระวางเรือ) รวมถึงต้นทุนอาหารเลี้ยงสัตว์ทั้งข้าวโพด, ถั่วเหลือง-กากถั่วเหลือง และข้าวสาลีเริ่มปรับตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (2H/66) ให้เร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับ EBITDA ของช่วงครึ่งปีแรก (1H/66) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่ายอดขายรวมทั้งปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นราว 5-8% เมื่อเทียบกับยอดขายปี 2565 (YoY) ที่ทำได้กว่า 1 ล้านตัน และมีรายได้จากการขายที่ 1.82 หมื่นล้านบาท  โดยจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ให้ทรงตัวเหนือราว 11%

*แนะซื้อเป้า 14.20 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง GFPT คาดการณ์กำไรปกติงวดไตรมาส 3/2566 ที่ 359 ล้านบาท ลดลง 51% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% กดดันจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันปี 2565 ขณะที่ปัจจัยหนุนคือ ส่วนแบ่งกำไรจาก McKey ที่ดีขึ้น รวมถึง GPM ที่เพิ่มขึ้นจากตันทุนอาหารสัตว์ลดลงทั้งยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับอ่อนตัวต่อเนื่องในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าเนื่องจากเป็นฤดูกาลที่จะมีข้าวโพด ถั่วเหลือง-กากถั่วเหลืองเข้าสู่ตลาดในปริมาณมาก

ขณะเดียวกัน การบริโภคภายในประเทศทั้งไทย ญี่ปุ่น และจีนยังคงฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่ง GFPT ยังจะได้ประโยชน์ทางอ่อมจากการส่งออก และยอดขายของบริษัทย่อยคือ McKey และ GFN ที่มีฐานลูกค้าในแมคโดนอลเอเชีย และ อาหารพร้อมรับประทานในร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นอีกด้วย เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่ 1,383 ล้านบาท และจะเร่งตัวขึ้น 17.72% แตะ 1,628 ล้านบาท ในปี 2567 จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 14.20 บาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1