> SET > MAKRO

23 มกราคม 2023 เวลา 09:29 น.

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,670-1,685 จุด กลุ่มธนาคารคาดว่ายังถ่วงตลาดหลังประกาศกำไร 4Q22 โดยรวมออกมาต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยยะ กดดันความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของทั้งเศรษฐกิจและกำไรบจ.โดยเฉพาะกลุ่มฐานลูกค้าระดับกลาง-ล่าง อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานคาดว่ายังประคองตลาดได้ต่อจากราคาน้ำมันดิบที่ยังขยับขึ้น จากความคาดหวังว่า Demand จะดีขึ้นจากจีนเปิดประเทศ 


อย่างไรก็ตามมูลค่าการซื้อขายคาดเบาบางเนื่องจากหลายตลาดในเอเชียปิดทำการหลายวันในสัปดาห์นี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้คือตัวเลขส่งออกเดือน ธ.ค. และโดยเฉพาะการประชุมกนง.วันที่ 25 ม.ค. รวมถึงการทยอยประกาศกำไร 4Q22 ของกลุ่ม Real Sector ที่จะตามออกมา แม้ระยะสั้นตลาดจะพักตัวสร้างฐานแต่เรายังมองบวกต่อเศรษฐกิจไทยที่ทยอยฟื้นตัวตลอดปี 2023 รวมถึงการเลือกตั้งที่ใกล้จะเกิดขึ้น จึงยังมองเป็นโอกาสสะสมกลุ่ม Domestic Play รวมถึงเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 4Q22-2023 แข็งแรง


กลยุทธ์ : ระยะสั้นเก็งกำไรหุ้น Defensive และงบ 4Q22 แข็งแกร่ง // ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว

หุ้นเด่นเดือนม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO


หุ้นเด่นวันนี้ : MAKRO

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 42 บาท

• แนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q22 คาดฟื้นตัวแข็งแรงและทำจุดสูงสุดของปีจากการ Reopening และคาดเริ่มเห็นผลบวกจากการทยอยปรับธุรกิจร่วมกับ Lotus’s 

• แนวโน้มปี 2023 คาดฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือค่าไฟที่ปรับขึ้น แต่เรายังมอง SSSG ยังเติบโตได้และเห็น Synergy กับ Lotus’s มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสถูกหยิบเข้าคำนวณดัชนีสำคัญอย่าง MSCI 

• แนวรับ 41.50//40 บาท แนวต้าน 43.50 บาท


**บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินตลาดอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ผลประกอบการ) และนโยบายของ Fed ทำให้นักลงทุนในตลาดต่างประเทศ และของไทย ต่างชะลอการลงทุน


สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นเอเซียยังมีวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ทำให้การซื้อขายในตลาดหุ้นไทย อาจจะเบาบางลงด้วย


ราคาพลังงานยังทรงตัว และราคาน้ำมันถูกหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้หุ้นกลุ่มน้ำมัน ยังคงน่าสนใจ


ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการเก็งงบหลังจากสิ้นสุดกลุ่มแบงก์ (แรงขายหุ้นกลุ่มนี้ อาจยังมีต่อในสัปดาห์นี้)


Strategy

• ตลาดยังคงปรับฐานต่อ ความกังวลเรื่องงบธนาคาร และตลาดหุ้นหลายแห่งหยุดช่วงตรุษจีน ในสัปดาห์นี้ ทำให้ยังคงต้องเน้นเก็งกำไรช่วงสั้นกันต่อไป

• นักลงทุนต่างชาติ ทยอยขายหุ้นต่อ ระวังหุ้นที่กลุ่มนี้ซื้อไว้มาก เช่นกลุ่มธนาคาร และ CPALL

• หุ้นที่ราคาลงมามาก มีโอกาส rebound ต่อ CKP, BGT

• พอร์ตหุ้นวันนี้เรานำหุ้น AU, PSL, JMART ออกจากพอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบด้วย IVL(10%), AOT(15%), SPRC (15%), PTTEP(10%)


Strategy Stock Pick

PTTEP: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 176.00 บาท) “น้ำมัน (Brent) ยืนเหนือ $80/บาเรล ก.พ.-มี.ค.ลุ้น OPEC+ ลดกำลังผลิต”

• ราคาน้ำมัน Brent รักษาระดับเหนือระดับ $80/บาเรล (ล่าสุดอยู่ที่ $87.63/บาเรล) ติดตามแผนการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ในเดือน ก.พ.-มี.ค. ’23 ขณะที่ Demand น้ำมันเร่งตัวขึ้นหลังจีนเปิดประเทศ

• ปันผลปี 4-5% ในปี ’23 (คาดการณ์) จะช่วยค้ำยันราคาหุ้นในช่วงที่ตลาดผันผวน ด้านแนวโน้มกำไร 4Q22 เราประเมินที่ 1.99 หมื่น ลบ. +54%YoY, -17%QoQ หนุนด้วยปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น

• DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 6.8 หมื่น พัน ลบ. และ 6.9 หมื่น ลบ. +75%YoY, +2%YoY ตามลำดับ


Technical : HANA, A5


**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด คาดดัชนี SET วันนี้คาดทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,670 – 1,675 แนวต้าน 1,680 – 1,685 ได้แรงหนุนจาก Fund Flow กอปรกับภาคท่องเที่ยวคาดฟืนตัวหลังกรุ๊ปทัวร์จีนเตรียมเข้าไทย 6 ก.พ. นี้ แนะนำทยอยซื้อ AOT,AAV,MINT,CENTEL,ERW/ กลุ่มพลังงาน PTTEP,TOP  


GPSC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 76.50 บาท) คาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ฟื้นตัว QoQ หนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 เต็มไตรมาส ขณะที่ต้นทุนก๊าซฯ และถ่านหินลดลง นอกจากนี้คาดว่าจะมีรายการพิเศษจากค่าสินไหมประกันของ Glow energy phase 5 ราว 20 ล้านเหรียญฯ ส่วนทิศทางในปี 66 คาดว่าโรงไฟฟ้า SPP จะเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง โดยคาดว่าราคาก๊าซในอ่าวจะปรับลดลงจากการผลิตของเอราวัณ-บงกชเพิ่มขึ้น ทำให้การนำเข้า Spot LNG น้อยลง นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า Ft ซึ่งสุดท้ายจะต้องทำเพื่อลดการขาดทุนของ EGAT ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66 อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท +143%YoY


SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.20 บาท) คาดภาพการดำเนินงาน 4Q65 จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจาก 3Q65 ที่สามารถกลับมามีกำไรได้หลังจากขาดทุนในช่วง Covid-19 โดยในส่วนของ 4Q65 จะได้แรงหนุนจากพอร์ตโรงแรมในไทย(ซึ่งนักท่องเที่ยวกลับมาในช่วง 4Q65 > 5 ล้านราย) และ โรงแรมในมัลดีฟส์(เข้าสู่ High Season) สำหรับการดำเนินงานในปีหน้าคาดว่าพอร์ตโรงแรมยังคงจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง REVPAR มีโอกาสปรับตัวสูงกว่าระดับ PreCovid-19 ในปี2019 จากการปรับราคาห้องที่สูงขึ้นใน UK และนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยวในไทยและมัลดีฟส์ ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี65 SHR* จะขาดทุนลดลงมาอยู่ที่ 66 ลบ.(จากขาดทุนปี 64 ที่ 1.2พันลบ.) และจะพลิกมีกำไรในปี66 ที่ 369 ลบ.



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X