AAV มองไกล ใกล้ก็สวย
AAI สินค้าใหม่-ออเดอร์หนุน ลุยลงทุนต่อยอด-เป้า8.70บ.
#AAI #ทันหุ้น-AAI วางเป้าการเติบโตของผลงานปี 2566 ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อน มองดีมานด์อาหารสัตว์เลี้ยงขยายตัวต่อเนื่อง แม้โค้งแรกปีนี้สต็อกในตลาดมีปริมาณสูง แต่เชื่อจะเร่งระบายได้หมดก่อนไตรมาส 2/2566 ยิ้มจีนเปิดประเทศส่งผลบวกเตรียมส่งทีมรุกขยายตลาด พร้อมติดปีกบินต่อ ตะวันออกกลาง-อินโด-สิงคโปร์ และมาเลเซีย
นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อน ตามเทรนด์อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
*เจาะรุกตลาดใหม่
ซึ่งจากกระแสความนิยมการเลี้ยงสัตว์เหมือนเป็นสมาชิกครอบครัว (Pet Humanization) ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงมักยอมจ่ายสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข แต่ยังคงมีความท้าทายจากสินค้าค้างท่าเรือในสหรัฐฯที่มีปริมาณมาก ส่งผลให้ร้านค้าปลีกมีสินค้าเก็บคงคลังที่ข้างมาก จึงทำให้คำสั่งซื้อในช่วงไตรมาส 1/2566 อาจหดตัวลงไปบ้าง มองว่าอาจต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือนในการระบายสต็อกในตลาด รวมถึงบาทแข็งค่า 33 บาทอาจลดความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ทั้งนี้ มองว่าตลาดสหรัฐที่เป็นตลาดหลักของบริษัทยังคงมีการเติบโตที่ดีในปีนี้อยู่ ขณะที่ตลาดในยุโรปทางตัวแทนจำหน่ายและคู่ค้าท้องถิ่นยังมองว่าตลาดยังเป็นบวกอยู่ แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว กำลังซื้ออาจลดลง แต่เชื่อว่าผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสินค้าจำเป็น ทำให้ยอดขายยังคงไปได้ดีอยู่ ส่วนประเทศจีนมองว่าตอนนี้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แม้มีการเปิดประเทศแต่ก็ยังไม่เต็มที่นัก แต่หากว่าสถานการณ์คลายตัวลงเรื่อยๆ บริษัทจะส่งทีมเข้าไป Visit เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้นและทำการตลาดต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจเข้าไปขยายตลาดในประเทศใหม่ๆ โดยเฉพาะแถบตะวันออกกลาง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพิ่มเติมอีกด้วย เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ค่อนข้างดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับทางตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการศึกษาและทดลองตลาดประมาณ 6 เดือน จึงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งหากไปได้ดีก็จะเป็นอีกแรงสนับสนุนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับยอดขายของบริษัท
สำหรับแผนการลงทุน โครงการขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกในประเทศไทย มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 40,000 ตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกสูงสุด 42,000 ตันต่อปี มูลค่าลงทุน คาดจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงต้นไตรมาส 1/2566 ส่วนการก่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ (Auto Warehouse) แห่งที่ 2 คาดเริ่มก่อสร้างกลางปี 2566 และจะแล้วเสร็จในปี 2567 ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นตามแผน
ส่องปี66กำไรโต15%
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี แม้แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์โรคระบาด หนุนโดย 1) โครงสร้างประชากรขยับไปสู่รุ่น millennials จาก baby boomer ซึ่งมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยว (Nuclear Families) ทำให้ความต้องการสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น 2. การขยายตัวของชุมชนเมือง (Urbanization) ทำให้ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูปเพื่อความสะดวกเพิ่มมากขึ้น
รวมถึง 3.ยอดค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์เลี้ยงต่อตัวที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเพราะเลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้ ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงหลักของโลกมีอัตราการเติบโตของปริมาณการส่งออกที่ 15% CAGR (2018-2021) จากปัจจัยข้างต้นที่ผ่านมา ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2565 (กำไรสุทธิใน 9 เดือนแรกปี 2565 อยู่ที่ 559 ล้านบาท คิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปี 2565 ของฝ่ายวิจัย) และ ปี 2566 (คาดโต 15%) ไว้เช่นเดิม และแนะนำ "ซื้อ" โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 8.20 บาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม