สวัสดีครับท่านนักลงทุน SET เริ่มชะลอตัว หลังตลาดเผชิญแรงขายทำกำไร หลังปรับขึ้นต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ โดยมีแรงขายทำกำไรหลังสิ้นสุดการประกาศงบและเปลี่ยนกลุ่มเล่นอย่างกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL, SCB) และกลุ่มการแพทย์ (BH, BDMS, CHG) รวมถึง ปัจจัยลบกดดันหลักจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่งบ 3Q/65 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดหรือมีแนวโน้มไม่ค่อยดีอย่างกลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, GULF, TOP, ESSO, SPRC, IRPC)

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูล ณ 15 พ.ย. 65 พบว่า บจ. ใน SET ที่ประกาศผลประกอบการ 3Q/65 แล้ว 482 แห่ง (มูลค่ารวม 83.7%ของมูลค่าตลาดทั้งหมด) มีรายได้รวม (~4.17 ล้านลบ.) เติบโต 41.4%YoY แต่หดตัว -1.2%QoQ ส่วนกำไรสุทธิรวม (~1.9 แสนลบ.) เติบโต 6.6%YoY แต่หดตัว -38.5%QoQ แต่หากไม่รวมหุ้นกลุ่มพลังงาน พบว่า บจ. ใน SET 595 แห่ง (มูลค่ารวม 68.0% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด) มีรายได้และกำไรสุทธิรวมเติบโต 28.9%YoY และ 24.9%YoY ตามลำดับ 

ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเติบโตสูงสุด YoY นำโดย กลุ่มอาหาร รองมา คือ กลุ่มแฟชั่น กลุ่มขนส่ง กลุ่ม PF&REIT และกลุ่มอสังหา ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิหดตัวมากสุด YoY นำโดย กลุ่มเหล็ก รองมา คือ กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มของใช้ส่วนตัว และกลุ่มบันเทิง ด้านทิศทาง fund flow นักลงทุนต่างชาติ สัปดาห์ก่อน เริ่มพลิกมาขายสุทธิ 6.7 พันลบ. หลังค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในรอบ 3 เดือนมาอยู่ที่บริเวณ 35.8 บาทต่อดอลลาร์

มุมมองแนวโน้ม SET มองว่าจะแกว่งตัวแคบและมีโอกาสพักตัว หลังมอง Fund Flow ยังมีแนวโน้มไหลออกและตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม อาทิ รายงานการประชุม FOMC ที่ตลาดมองหาสัญญาณการเปลี่ยนท่าทีการทำนโยบายการเงิน, ท่าทีของจีนหลังจากจำนวนผู้ป่วยทะลุ 4 หมื่นรายต่อวัน และการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. (30 พ.ย.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bps สู่ระดับ 1.25%

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเป็น “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 1. กลุ่มหุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q/65เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ เลือก BBL GULF MAKRO CRC SPALI AOT 2. กลุ่มหุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์ที่จีนมีแนวโน้มเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งคาดหนุนท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เลือก MINT ERW / SCGP IVL และ 3. หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) ซึ่งคาดกระตุ้นบรรยากาศการบริโภคในช่วงเชียร์บอล เลือก CPALL CENTEL MINT

สุดท้ายเหมือนเช่นเคยครับ ผมนำหุ้นที่แนะนำในธีมต่างๆ คัดมาจัดพอร์ตจำนวน 5 ตัว ด้วยกัน ได้แก่

1. MAKRO 4Q/65 คาดกำไรปกติ YoY จะสนับสนุนด้วยยอดขายที่ดีขึ้นและจะมากเกินพอชดเชยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ขณะที่ QoQ จะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล และเป็นหุ้นคาดได้อานิสงส์จากมาตรการช่วยเหลือภาครัฐ เช่น ประกันราคาข้าว เยียวยาน้ำท่วม

2. CRC กำไร 3Q/65 ออกมาดีตามคาด ส่วนกำไรปกติ 4Q/65 คาดจะเติบโต YoY แรงหนุนจากยอดขาย รายได้จากการให้เช่า และมาร์จิ้นที่ดีขึ้น และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่กำไรปี 2565 คาดอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรเพียง 59 ลบ. ในปี 2564

3. MINT 4Q/65 คาดกำไรจะดีขึ้น YoY จากทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารที่ปรับตัวดีขึ้น และเป็นหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอล (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรดที่ P/BV ปี 2566 ระดับ 1.9X (-1SD) เท่ากับจุดต่ำสุดในปี 2551-52

4. SCGP 4Q/65 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ อันเป็นผลมาจากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น โดยได้แรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล รวมทั้งต้นทุน RCP และต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มลดลงในระยะหลัง

5. CENTEL การดำเนินงานโรงแรมที่แข็งแกร่งขึ้นเพราะเป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวในไทยและมัลดีฟส์ ธุรกิจอาหารปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งคาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลกกระตุ้นการบริโภค ซึ่งคาด 4Q/65 ผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ..แล้วพบกันใหม่ ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1