#IT #ทันหุ้น - IT วางเป้ารายได้ปี 65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน และคงอัตรากำไรสุทธิยืนเหนือ 2.2% เดินหน้าขยายสาขาและช็อปแบรนด์ เพิ่มเป็นกว่า 440 สาขา จากสิ้นปีก่อนที่มี 393 สาขา แย้มอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มช่องทางการชำระและผ่อนชำระใหม่ๆ
นายโสภณ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้อำนวยการและกรรมการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ IT ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก (Retail Superstore) จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีและอุปกรณ์เสริมเกี่ยวเนื่อง เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากการขายรวมปี 2565 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,713.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 205.25 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ระดับมากกว่า 2.2%
รุกสินค้ามาร์จิ้นสูง
มองว่าความต้องการสินค้าประเภทไอที ทั้งแท็ปเล็ต คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ รวมถึงสินค้าเก็ตเจ็ตต่างๆ (Gadget) และสินค้าทุกสิ่งที่เชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet of Things : IoT) เป็นต้น ในปีนี้ยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน หลักๆ เป็นเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่เข้ามาช่วยเร่งการดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่ให้เกิดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาการเพิ่มช่องทางการชำระและการผ่อนจ่ายเพิ่มเติม
แผนการดำเนินงานในปี 2565บริษัทจะมุ่งเน้นในการขยายผลิตภัณฑ์และการให้บริการในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าที่ให้มาร์จิ้นระดับสูงอย่างกลุ่มเกมมิ่ง แบรนด์ ACE และ it และกลุ่มสินค้า IoT และอุปกรณ์เสริม (Accessories) เพราะเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2564มีการเติบโตสูงถึง 112% และ 46% ตามลำดับ ทำให้มองว่ามีโอกาสที่สัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าทั้ง 2 กลุ่มจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ราว 14% และ5% ของยอดขายรวม
ขยายสาขาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายในการขยายสาขาทั้งในส่วนของสาขา "ไอที ซิตี้ ( IT CITY)" ในทำเลต่างๆ รวมทั้งมองหาโอกาสในการขยายสาขาในส่วนของช็อปแบรนด์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้เพิ่มเป็นมากกว่า 440 สาขา จากสิ้นปี 2564 ที่มี 393 สาขา ประกอบด้วย IT CITY 100 สาขา, DTAC 36 สาขา, CSC 181 สาขา, ACE และ it 17 สาขา และแบรนด์ช็อป 59 สาขา เป็นต้น ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันบริษัทมีการขยายสาขาใหม่รวมทุกแบรนด์แล้วเพิ่มเป็น 400 สาขา
"สำหรับปัญหาชิปขาดแคลนมองว่าในปีนี้ยังคงมีผลกระทบอยู่ แต่จะมีความแตกต่างออกไปจากปีก่อน โดยเราเองยังคงให้ความสำคัญในการบริหารจัดการทั้งการสั่งซื้อสินค้าและสินค้าคงคลังให้มีความเหมาะสม และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ขณะที่การควบรวมกิจการของทรูและดีแท็กนั้น ตอนนี้คงจะเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ในเชิงลึก แต่เมื่อมีความชัดเจนจะรีบแจ้งรายละเอียดให้ทราบทันที เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อการบริหารสาขา "dtac shop" ที่มีแน่นอน"นายโสภณ กล่าว
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม