เคาะ GPSC

GPSC รายงานกำไรสุทธิ 3Q64 เท่ากับ 1.86 พันล้านบาท (-19%QoQ, -27%YoY) โดยลดลง จากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงโรงไฟฟ้า SPP มีทำไรขั้นต้นที่ลดลง แม้ว่าจะมีปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำสูงขึ้นก็ตาม ขณะที่กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า IPP ลดลง เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน ปิดซ่อมบำรุง ทำให้รายได้ค่าความพร้อมจ่ายลดลง อย่างไรก็ดีได้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าไชยะบุรีเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำที่สูงขึ้นจากเป็นช่วงฤดูฝน

ผู้บริหารตั้งเป้าในปี 65 ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย แต่ยังต้องจับตาเรื่องของต้นทุนเชื้อเพลิง โดยคาดว่าในช่วงต้นปีหน้าราคาก๊าซธรรมชาติก็น่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนผลประกอบการในปี 65 ส่วนในปี 4Q64 คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในระดับสูง อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรในไตรมาส 4 แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีรายได้จากการเคลมประกันของการปิดโรงไฟฟ้า Glow Energy เฟส 5 เข้ามาชดเชย จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัท น่าจะออกมาอยู่ในระดับที่คงที่

ทั้งนี้ GPSC รอโรงงานร่วมทุน Axxivaในประเทศจีน ซึ่งป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่กำลังการผลิต 1Gwhต่อปี (GPSC ถือหุ้นในสัดส่วน 11.1%) มีแผนที่จะ COD ในปี 2566 หากเดินเครื่องผลิตเรียบร้อยก็รอจังหวะดีมานด์ที่จะสามารถนำเทคโนโลยีมาต่อยอดให้กับโรงงานของ GPSC ให้เติบโตเป็น Giga Scale ในประเทศไทยได้ทั้งนี้ GPSC sentiment เชิงบวกจากที่ประชุม ครม. ในวันที่ 25 ม.ค. ที่จะมีการเสนอมาตรการกระตุ้น EV car

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค เปิดGapระหว่างวันปรับตัวลงทดสอบกรอบแนวรับจิตวิทยา 80.50-80 พร้อมกลับตัวขึ้นปิดเหนือด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวก ระยะสั้นแนวโน้มแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานราคา แนวต้านSMA5วัน 83.50 ผ่านยืนเป็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น โดยแนวต้านจุดทดสอบเพื่อปิดGapแนวต้าน 85 และจุดสูงแท่งเทียนคู่ 86

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 83.50/85 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 80.50-80 ไม่ควรต่ำกว่า