> SET > ERW

08 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 08:15 น.

ERWท่องเที่ยวฟื้นปี66 มีกระแสเงินสด1.6พันล.

ทันหุ้น – ผู้บริหาร ERW คาดปี 2566-2567 ธุรกิจฟื้นตัวกลับมาเท่าปี 2562 ชูกระแสเงินสดกว่า 1.6 พันล้านบาท สามารถบริหารจัดการได้ดี พร้อมเจรจาขอยืดหนี้แบงก์ไป 55% ช่วยให้การทำงานคล่องตัวขึ้น ส่วนอัตราการเข้าพักคาดว่าจะดีขึ้น หวังภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง ฟากโบรกมองกลุ่ม Hop Inn ยังสามารถฟื้นตัวได้ดี


นางสาววรมน อิงคตานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมช่วงต้นไตรมาส 4/2563 ที่ผ่านมาฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาส 3/2563 แต่หลังจากโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ส่งผลให้อัตราการเข้าพัก (OCC) ลดลง แต่ปัจจุบันสถานการณ์มีทิศทางที่ดีขึ้น จากภาครัฐคลายล็อกดาวน์


แต่ปีนี้ยอมรับว่ายังเป็นปีของความท้าทาย ซึ่งต้องจับตาสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องวัคซีนด้วย หากมีทิศทางที่ดีธุรกิจก็น่าจะดีขึ้นแต่คาดว่าปี 2566-2567 จะกลับมาเท่าปี 2562 แม้ระยะสั้นอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ระยะยาวยังมีแนวโน้มที่ดี


*ระยะยาวโรงแรมยังดี


“ช่วงที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักก็ลดลงไปบ้าง อย่าง Hop Inn ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 70% ลดลงมาที่ประมาณ 30-40% ส่วนเชนโรงแรมอี่นอัตราการเข้าพักก็ลดลง แต่ปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทายต้องติดตามสถาการณ์ใกล้ชิด ในหลายเรื่อง แต่เชื่อว่าปี 2566-2567 จะกลับมาเท่าปี 2562 แต่บริษัทก็เชื่อว่าปีนี้จะเดินหน้าธุรกิจไปได้ กระแสเงินสดยังอยู่ในระดับที่มี มีเงินสดในมือราว 1.6 พันล้านบาท และบริษัทก็มีการเจรจาขอยืดหนี้แบงค์ที่ครบกำหนดชำระอกไป 55% ด้วย เพื่อรักษาสภาพคล่องปีนี้” นางสาววรมน กล่าว


อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเดินหน้าลงทุนโรงแรมต่อเนื่องแต่จะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยที่ผ่านมาบริษัทมีแผนการลงทุนโรงแรม Hop Inn จำนวน 5 แห่ง แบ่งเป็นในไทย 3 แห่ง และในฟิลิปปินส์ 2 แห่ง โดยในไทยเปิดให้บริการไปแล้ว ส่วนฟิลิปปินส์ จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4/2564 ทำให้ปัจจุบันมีโรงแรม Hop Innในประเทศไทย จำนวน 43 แห่ง ส่วนฟิลิปปินส์ จำนวน 5 แห่ง อย่างไรก็ดีบริษัทก็คาดหวังภาครัฐจะมีการออกมาตราเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมอย่างต่อเนื่อง


*กลุ่ม Hop Inn ฟื้นตัวได้ดี


บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุถึง ERW ว่า คาดรายงานขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2563 ที่ 401 ล้านบาท ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3/2563 ที่ขาดทุน 514 ล้านบาท แต่ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4/2562 การฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า มาจากช่วง High Season ปลายปี และมียอดเข้าพักที่ดีขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563 แต่ยอดกลับมาอ่อนตัวลงในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 เนื่องจากมีการระบาดของ COVID-19 รอบสองในหลายจังหวัด


อัตราเข้าพักเฉลี่ย (ไม่นับรวม Hop Inn)ในช่วงไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 25% ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 14% ในไตรมาส 3/2563 แต่ ADR เฉลี่ยใน ไตรมาส 4/2563 ยังคงปรับตัวลดลงที่ 40-50% จากปีก่อน จากการใช้ Promotion ส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ RevPar ในไตรมาส 4/2563 คาดว่าจะปรับตัวลดลง 80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน


*เที่ยวในประเทศหนุน


ทั้งนี้ คาดผลประกอบการของกลุ่ม Hop Inn ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถฟื้นตัวได้ดี จากอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 70-80% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ Pre-COVID-19 ด้าน ADR โดยรวม Flat จากปีก่อน แต่ RevPar ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากอัตราเข้าพักในบางจังหวัดที่โดน COVID-19 ระบาดรอบที่สอง ปัจจุบัน ERW ได้เข้าร่วมโครงการ ASQ โดยมีโรงแรม 3 แห่งที่เข้าร่วม และมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 20-30% ทำให้ คาดปี 2563 ทั้งปี จะมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิที่ 1.64 พันล้านบาท จากที่กำไร 446 ล้านบาทในปี 2562


โดยที่รายได้รวมคาดว่าจะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 64% จากปีก่อน แม้ว่า ERW จะสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก แต่เนื่องจากฐานรายได้ที่ลดลงส่งผลให้ยังคงมี Fixed Cost ในระดับสูงและไม่ได้ประโยชน์จาก Economy of scale อย่างไรก็ดีคาดว่าปี 2564 กลุ่มการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังคงต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X