18 กรกฎาคม 2025 เวลา 06:10 น.
#ทันหุ้น-เศรษฐกิจเวียดนามยังโตแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ปี68 ขยายตัว 6.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับว่าสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่การลงทุนภายในประเทศก็ขยายตัวได้ดี สะท้อนจากมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิ (FDI Netflow) และสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แต่เปราะบางต่อแรงกระแทกจากปัจจัยภายนอก
รายงาน Wealth Insight ของทีม Wealth Researchหลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า ในช่วงระยะสั้นเศรษฐกิจเวียดนามอาจมีความเปราะบางจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะหลังจากมาตรการผ่อนปรนภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) สิ้นสุดลงในวันที่ 9 ก.ค. 68 เนื่องด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจของเวียดนามมีการพึ่งพิงภาคการส่งออกอยู่ในระดับสูง โดยมูลค่าการส่งออกคิดเป็น สัดส่วนราว 85-90% ของ Nominal GDP
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมในเวียดนามที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร เซมิคอนดักเตอร์ วงจรรวม เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์
ในด้านเสถียรภาพทางการเงินอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ต่ำกว่ากรอบบนของอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 4.5%
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงอาจยังไม่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้และน่าจะยังคงอยู่ที่ 3.0% ต่อปี ขณะเดียวกันต้องจับตาสภาพ คล่องของธนาคารพาณิชย์ที่ยังอยู่ในสภาวะตึงตัว สะท้อนจากอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะสั้นที่สูงกว่าอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายค่อนข้างมาก
“ตัวเลขนักท่องเที่ยวสะสมของเวียดนาม ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 68 อยู่ที่ 9.2 ล้านคน เติบโต 21.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 126.1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในปี 62 ก่อนวิกฤติโควิด-19 หนุนโดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ 2.36 ล้านคน เติบโตได้สูงถึง 47.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วนราว 110.6% ของจำนวนนักท่องจีนในปี 62 ก่อนวิกฤติโควิด-19 ถือว่าเวียดนามมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสะสมในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าไทยที่อยู่ราว 1.96 ล้านคน เป็นครั้งแรก แม้ว่าปัจจุบันรายได้จากภาคการท่องเที่ยวเวียดนามอาจยังไม่สูงมาก คิดเป็นเพียงร้อยละ 7.3% ของNominal GDP แต่ด้วยทิศทางการฟื้นตัวที่โดดเด่นน่าจะสร้างโมเมนตัมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเวียดนามได้อย่างแข็งแกร่งในระยะกลางถึงยาว”
ทั้งนี้ ความเสี่ยงต่อตลาดในระยะข้างหน้ายังมีหลายด้าน ทั้งโมเมนตัมส่งออกที่อ่อนแรงลง, การบริโภคในประเทศที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยเชิงลบภายนอก และแรงกดดันเชิงเทคนิคทำให้เราคงมุมมองเชิงกลยุทธ์แบบ “Neutralto-Cautious” ต่อตลาดหุ้นเวียดนาม ในเดือนก.ค.68
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม