#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ส่องหุ้น บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP น่าสนใจในกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่างไร...?
i) โมเมนตัมโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแข็งแกร่ง ฝ่ายวิจัยคาดว่าทั้ง NN2 และ XPCL ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลักของ CKP คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของ capacity รวมจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2568 โดยที่ในช่วง 1H68F นี้ NN2 และ XPCL น่าจะผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 3,100 GWh (+25% YoY) และ 1,109 GWh (+23% YoY) ตามลำดับ ผลักดันจากผลของปรากฏการณ์ La Niña ที่ทำให้ปริมาณกระแสน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น รวมถึงจากเขื่อนเสี่ยวหวาน (Xiaowan) และเขื่อนนัวจาตู (Nuozhadu) ของจีน โดยต่างจากปี 2567 ที่ XPCL ควรเลี่ยงการปิดซ่อมนอกแผน (17 วัน) ทำให้กำไรในปีนี้ราบรื่นขึ้น
ii) ผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยลดลง โครงการ XPCL จะได้ประโยชน์โดยตรงจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากโครงสร้างหนี้ 8.2 หมื่นล้านบาท ที่ประกอบด้วยสัดส่วนหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 76% และหนี้สกุลเงิน USD 25% อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยคาดว่าต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ยของ XPCL จะลดลงเหลือ 6.7%/6.6%/6.6% ในปี 2568-2570F (จาก 7.0% ในปี 2567 และ 6.9% ใน Q1/68)
iii) Valuation ถูกน่าสนใจ ขณะนี้ CKP ซื้อขายระดับ P/E ปี 2568F ต่ำที่ 13x และให้ dividend yield ราว 4% ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับฐานลงล่าสุดเกิดจากการถูกถอดออกจากดัชนี SET100 และภาวะตลาดที่อ่อนแอในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กมากกว่าพิจารณาที่ปัจจัยพื้นฐาน
iv) ผลกระทบไม่มากจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาลไทย ฝ่ายวิจัยประเมินว่าค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่เปลี่ยนแปลงทุก ๆ 0.10 บาท/kWh จะกระทบกำไรปี 2568F ของ CKP เพียงประมาณ 1.3% และราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยเพียง 0.2% เนื่องจาก SPP มีสัดส่วน capacity น้อยเพียง 4% ของ capacity ที่ติดตั้งทั้งหมดของ CKP
ประมาณการ Q2/68F – ขึ้นสู่จุดสูงสุดของปี
วันที่ 8 ส.ค. CKP น่าจะรายงานกำไรสุทธิ Q2/68F ที่ 578 ล้านบาท (+720% QoQ และ +681% YoY) พร้อมมีกำไรหลักที่ 285 ล้านบาท (+350% QoQ และ +92% YoY) (ไม่รวมกำไร FX) กำไรที่ทะยานขึ้น YoY จะเป็นเพราะมีปริมาณกระแสน้ำไหลเข้าที่แข็งแแกร่งจากภาวะ La Niña
ประกอบกับต้นทุนดอกเบี้ยของ XPCL ลดลง ส่วนกำไรพุ่งขึ้น QoQ จะเกิดผลบวกของปัจจัยฤดูกาลที่ดีของโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำและผลงานของ SPP ลดลง ส่วนปริมาณผลิตไฟฟ้าของ NN2 น่าจะอยู่ที่ 525GWh (+32% QoQ และ +2% YoY)
ขณะที่ XPCL อาจผลิตไฟฟ้าได้ราว 1,700 GWh (+21% QoQ และ +19% YoY) สำหรับธุรกิจ SPP ด้วยค่า Ft ที่ 0.25 บาท/kWh (-0.11 บาท QoQ) ราคาก๊าซของ SPP น่าจะทรงตัวแต่ลดลง YoY
ทั้งนี้ กำไรหลัก 1H68F ของ CKP น่าจะแตะ 642 ล้านบาท (ดีขึ้นจากขาดทุนหลัก 93 ล้านบาทใน 1H67) คิดเป็น 22% ของกำไรปี 2568F ของฝ่ายวิจัย
ฝ่ายวิจัยยืนคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 3.40 บาท (DCF-WACC ที่ 6.7%) โดยปกติ ราคาหุ้น CKP มักจะมีโมเมนตัมขาขึ้นระหว่างไตรมาส 2 และช่วงประกาศกำไรไตรมาส 3 ซึ่งสะท้อนถึงปัจจัยฤดูกาลที่แข็งแกร่งตามผลการดำเนินงานหลักของไฟฟ้าพลังงานน้ำ
Risks การปิดซ่อมบำรุงที่ไม่ได้วางแผน ต้นทุนเกินงบประมาณและความผันผวนของ FX และอัตราดอกเบี้ย
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม